+++ มือถือ หรือ พระเยซูเจ้า +++

 

มือถือ หรือ พระเยซูเจ้า
ช่วยให้เราหยุดคิดว่าอะไรมีความสำคัญกว่ากัน

ลองคิดซิว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากเราปฏิบัติต่อพระคัมภีร์เหมือนกับโทรศัพท์มือถือของเรา?-หากเราเอาติดตัวไปทุกแห่งในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อ
-หากเราหันกลับไปเอา เมื่อเราลืมเอาติดตัวไป
-หากเราเปิดดูวันละสองสามครั้ง
-หากเราใช้เพื่อส่ง “ข้อความ” ไปยังพระเจ้า และรับ “ข้อความ” จากพระองค์
-หากเรากระทำเหมือนกับว่าเราจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้หากไม่มีพระคัมภีร์
-หากเรามอบให้เป็นของขวัญแก่ภรรยา สามี หรือลูกๆ ของเรา
-หากเรานำติดตัวไปเมื่อเราเดินทาง
-หากเรานำมาใช้ในยามฉุกเฉิน
นี่คือบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้เราไป...หา...พระคัมภีร์ของฉันอยู่ที่ไหน?...
และอีกอย่างหนึ่ง...ที่แตกต่างจากมือถือของเราก็คือ เราไม่ต้องกลัวว่าพระคัมภีร์ของเราจะถูกตัดสาย เหตุว่าพระเยซูเจ้าทรงเติมเงินให้ เพื่อเราจะใช้ได้ตลอดเวลา!พระคุณเจ้ายอด พิมพิสาร : แปล
(นสพ.อุดมสารรายสัปดาห์ ปีที่ 31 ฉบับที่ 19 ประจำวันที่ 6-12 พ.ค.2007)
Cell Phones versus Jesus
Imagine what would happen if we treated our Bible like we treat our cell phones?

What if we carried it around in our pouch or pocket?
What if we turned back to go get it, if we forgot it?
What if we flipped through it several times a day?
What if we used it to send and receive ‘text messages’ to and from God?
What if we treated it like we couldn’t live without it?
What if we gave it to wives, husbands and children as gifts?
What if we always carried it as we traveled?
What if we used it in case of an emergency?
This is something to make you go…hmmmm….Where is my Bible? Oh!
And one more thing… unlike our cell phones, we don’t ever have to worry about our Bible being disconnected because Jesus keeps paying the bill to have it recharged!
Courtesy : Internet