รู้จักนักบุญโฮเซมารีอาและ
Opus Dei กับคุณพ่ออัลฟอนโซ แด ยวง, เอส.เจ.
ให้คุณพ่อช่วยแนะนำให้เรารู้จักนักบุญองค์นี้เพราะเมืองไทยังไม่รู้จัก
นักบุญโฮเซมารีอา บอกว่าความศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ชีวิตประจำวันของแต่ละคนไม่ว่าอยู่ในสถานภาพใดผู้ชายผู้หญิง
เป็นคนใช้
คนงาน เป็นกรรมกร เป็นหมอ เป็นทนาย เป็นนักเขียน เป็นนักการเมือง เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวสมาชิกในอาชีพ
ทั้งหมดนี้คุณสามารถดำเนินชีวิตอย่างครบครันได้ขึ้นกับว่าคุณซื่อสัตย์กับชีวิต
ทำงานให้ดีที่สุด ในเวลาเดียวกันก็ให้ภาวนา
ดำเนินชีวิตศักดิ์สิทธิ์ในการแก้บาปรับศีลไปร่วมมิสซา สวดภาวนาเท่าที่มีเวลาอย่าให้งานแย่งเวลาทั้งหมด
สำหรับหล่อเลี้ยง
จิตใจ อันนี้เป็นจุดเด่นของโฮเซมารีอา
ถ้าจะถามว่านักบุญองค์นี้มีอะไรเด่นพิเศษไหม
ต้องตอบว่าไม่มี นักบุญองค์นี้ปฏิรูปอะไรของพระศาสนจักรท่านก็ตอบเองว่า
ไม่ได้ปฏิรูปอะไร นักบุญนี้สร้างอะไรใหม่ก็ไม่ใช่ แต่ก็มีความหมายสำหรับพระศาสนจักรเพราะนักบุญเน้นว่าาเรามี
ความหมายต่อพระศาสนจักรบอกว่าเราศักดิ์สิทธิ์ เต็มไปด้วยบุญได้โดยไม่ต้องทำอะไรพิเศษ
แต่ให้ทำหน้าที่ที่เรามีในสถาน-
ภาพของเรามีให้ดีที่สุด
นักบุญโฮเซมารีอานำคำสอนนี้มาสอนผู้คนในสังคมของสเปนทั้งก่อนสงครามกลางเมืองและยังช่วยให้คนสบายใจได้เยอะ
ให้คนที่มีอายุแล้วจะเป็นพระสงฆ์นักบวชก็ไม่ได้จะทำอะไรมากก็ไม่ได้เพราะมีลูก
5 คน 7 คน นักบุญโฮเซมารีอาก็เลย
นำคำสอนมาบอกกับชาวบ้านธรรดาเหล่านี้
คณะนี้ก็มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาส มีพระสงฆ์เป็นสมาชิกของคณะและอภิบาลสมาชิกของเขาด้วยนอกจากนั้นก็มีพระสงฆ์
ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกแต่เป็น associatedmember เป็นเพื่อนยินดีทำงานด้วยกัน
แล้วก็มีสมาชิกที่เป็นฆราวาสทั้งที่แต่งงาน
และไม่ได้แต่งงาน สำหรับฆราวาสที่เป็นสมาชิกกลุ่มนี้ก็ถือด้านจิตใจของคณะ
มีโอกาสไปปรึกษากับคุณพ่อ ไปเข้าเงียบกับ
สมาชิกคณะนี้อ่านหนังสือที่เป็นจิตตารมณ์ของคณะ
เอาจิตตารมณ์ของคณะมาใช้ในชีวิตประจำวันและนำจิตตารมณ์มาใช้ใน
งานอาชีพด้วย และมีส่วนบริจาคทรัพย์สินเพื่องานของกลุ่มทำให้บางครั้งเกิดปัญหาขึ้นเพราะ
ฆราวาสแต่ละคนก็มีอาชีพอิสระ
ก็เป็นความคิดของคนหนึ่ง ถ้าเราไม่เห็นด้วยก็ไม่เห็นด้วย
จะมาบอกว่าความคิดของเขาเป็นความคิดของคณะนี้ก็ไม่ใช่
เพียงแต่ว่าความคิดการกระทำของเขาต้องอยู่ ในขอบเขตศีลธรรมจริยธรรมก็เท่านั้น
เราต้องมีใจกว้างก็เหมือนกับที่
เมืองไทยมีหมอคนหนึ่งฆ่าแฟนของเขา
เราจะมาโทษหมอทุกคนก็ไม่ได้ จะมาโทษสถาบันหรือมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้
ปัญหาก็คือส่วนใหญ่คนมักจะไปโยงชีวิตส่วนตัวของสมาชิกคณะกับคณะทั้งหมด
ครับ แล้วบางครั้งก็มาบอกว่าทำไมสมาชิกคณะใช้อิทธิพลของนักการเมืองคนนี้คนนั้นเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มเขา ทุกยุค
ทุกสมัยก็เป็นแบบนี้ เยสุอิตเองก็เคยโดนเรื่องนี้เหมือนกัน ก็ถูกหาว่าเข้าออกพระราชวังของกษัตริย์สเปนไปฟังแก้บาป
ราชินีแล้วใช้อิทธิพลเพื่อผลประโยชน์อย่างนี้อย่างนั้น แต่เมื่อเรามาศึกษาประวัติศาสตร์
ราชินีก็เป็นคาทอลิกก็ต้องแก้บาป
รับศีล เมื่อคุณพ่อเยสุอิตรู้จักราชินีก็แนะนำเรื่องดีๆ หรือให้ช่วยเหลือกบางอย่างส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องดี
แต่ก็มีบ้างที่อาจสร้าง
ปัญหา ช่วงหลังเยสุอิตก็พยายามช่วยคนยากคนจนให้มากที่สุดเช่นในละตินอเมริกา
ก็ถูกหาว่าเยสุอิตมายุ่งกับการเมืองเป็น
พวกซ้าย พวกคอมมิวนิสต์
ในชีวติของนักบุญโฮเซมารีอาทำให้ฆราวาสบวชเป็นพระสงฆ์ประมาณ1,000
คน เป็นจิตตารมณ์ของคณะสำหรับฆราวาสผู้ชายที่อายุยังไม่มากมีอาชีพ ยังไม่ได้แต่งงานและฝ่ายผู้ใหญ่ของคณะก็เห็นว่าเขาเหมาะสมที่เป็นพระสงฆ์
จะรับใช้พระศาสนจักรได้ในอีกรูปแบบหนึ่งหลังจากเรียนเทวศาสตร์จบก็จะได้บวชคือมาบวชตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ในประเทศสเปนคณะนี้คนทั่วไปรู้จักดี
รู้จักครับ เราทุกคนรู้จักมานานเพราะคณะนี้ก็เกิดในสเปน แล้วโอเซมารีอาเขียนหนังสือเล่มหนึ่งทำให้คนรู้จักทั่วโลก
ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า A Way พิมพ์มาแล้ว 372 ครั้งใน 42 ภาษา 5 ล้านเล่ม
พ่อโซ่เองตอนอายุ 13-14 ก็อ่านหนังสือ
เล่มนี้ เป็นหนังสือที่มีพลัง เราต้องเข้าใจสเปนสมัยนั้น เพราะคณะนี้เกิดก่อนสงครามกลางเมืองไม่นานสมัยนั้น
ต้องต่อสู้
เพื่อเป็นสเปนเดียวกันก็มีกลุ่มพวก anti-church ด้วย หลังสงครามกลางเมืองสเปนก็มีชนชั้นกลางมากขึ้นพวกนี้ก็แสวงหา
ความหมายของชีวิตอีกครั้ง คนที่รู้จักโฮเซมารีอาจะบอกว่าท่านเป็นคนที่มีบุคลิกภาพดี
และเป็นคนรักลูกน้องมากเหมือน
พ่อรักลูก คณะของเขาสนับสนุนพระศาสนจักรพระสันตะปาปา สนับสนุนนโยบายของพระศาสนจักรและเดินทางสายกลาง
ชนชั้นกลางก็เลยรับคณะนี้ได้ง่ายและทำให้ชีวิตของเขาก็มีความหมาย ชีวิตของนักบุญผู้นี้ไม่มีอะไรพิเศษมากๆ
เป็นพระสงฆ์
ที่ศรัทธาซื่อสัตย์ทำให้ทุกอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ทั้งชีวิตพระสงฆ์
งานการบริหาร จุดเด่นก็อยู่ในสิ่งที่ไม่เป็นจุดเด่น ให้ชีวิตธรรมดามีคุณภาพ
เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของคนธรรมดา
จุดเด่นของคณะนี้อยู่ที่สมาชิกแต่ละคนขึ้นอยู่กับพระสังฆราชอธิการคณะคนเดียว
ใช่สำหรับพ่อเรื่องนี้ก็ไม่เป็นปัญหาตรงไหน ก็เหมือนกับว่าเราเป็นคนไทยเป็นคาทอลิกมีประมุขคือพระสันตะปาปาอยู่ที่
กรุงโรม เป็นเรื่องของจิตใจ จิตตารมณ์ความเชื่อของเรามากกว่า พ่อคิดว่าถ้าพระเยซูชาวนาซาเร็ธเสียชีวิตก่อนออกเทศนา
สั่งสอน 3 ปี จะไม่มีใครรู้จักไม่มีร่องรอยในโลกเลย แล้วถามว่าถ้าเสียชีวิตก่อน
3 ปี พระเยซูได้ไถ่บาปมนุษย์ไหมก็ได้ไถ่บาป
ให้เราเป็นลูกพระเจ้าทุกอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะชีวิตของพระเยซูในโลกนี้แม้แต่วินาทีเดียวก็มีค่าไม่มีขอบเขต
พระบุตร-
ของพระเจ้าวันเดียวในโลกพอแล้ว แล้วถามว่าทำไมต้องมีอีก 3 ปี ก็เพราะว่าพระองค์ต้องหาลูกศิษย์ต้องตั้งพระศาสนจักร
เพื่อจะได้สืบต่อไปให้มนุษย์รู้เรื่อง และพระองค์ใช้เวลาแค่ 3 ปี เร็วมากต้องการลูกศิษย์แค่
12 คน และหนึ่งในนั้นยังทรยศอีก
แต่ที่สำคัญคือพระเยซูก่อนหน้านั้นก็ดำเนินชีวิตธรรมดา
ชีวิตของพระนางมารีย์ก็ธรรมดา ชีวิตของนักบุญโยเซฟก็ธรรดา
คุณพ่อคิดว่าคณะนี้จะมีโอกาสเข้ามาในประเทศไทยบ้างหรือเปล่า
ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเขาก็ขึ้นกับพระศาสนจักรอยู่แล้ว ในประเทศไทยมีคณะนักบวชต่างๆ
รวมกันน่าจะประมาณ 20-30 คณะ แต่ในพระศาสนจักรทั้งหมดมีคณะต่างๆ หลายร้อย
จะมาเมื่อไรอย่างไรก็แล้วแต่ ตอนนี้พระศาสนจักรใน
ประเทศไทยก็มีคณะใหม่อีกคณะอยู่แล้วคือ อิเดนเตส (Identes) มีพระสงฆ์ไทยคนแรกคือ
พ่อคมกฤช (อนามนารถ)
เพิ่งบวชเป็นพรงสงฆ์ปี 2001 เขาก็ทำงานเป็นครูมาก่อน บวชเสร็จก็ไปอยู่ที่เวียงป่าเป้า
และมิสซังเชียงใหม่มอบวัดและ
โรงเรียนให้ดูแล คณะนี้ก็ก่อตั้งใกล้ๆ กับ Opus Dei คนก่อตั้งก็เป็นชาวสเปนเหมือนกัน
เขาก็มีสมาชิกที่เป็นพระสงฆ์และ
ฆราวาส และมีสมาชิกฆราวาสเป็นอาจารย์ที่จุฬาอยู่