อาแลสซานดรีนาเห็นภาพนิมิตบ่อยไหม?

ขอตอบว่า “บ่อย” เนื่องจากเธอดำเนินชีวิตใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้า จึงปรากฏเป็นอากัปกิริยาภายนอก เช่น การเข้าฌาน และสนทนากับพระเยซูคริสตเจ้าบ่อยๆ พระสงฆ์วิญญาณรักษ์แนะนำให้มีการบันทึกคำสนทนาระหว่างเข้าฌานไว้ (น้องสาวของเธอเคยทำหน้าที่บันทึก) เธอได้รับพรสวรรค์หลายๆ อย่าง รวมทั้งการรักษาโรคทางร่างกายด้วย


ชีวิตฝ่ายจิตของเธอค่อนข้างไปทางการบำเพ็ญพรต

การดำเนินชีวิตแบบบำเพ็ญพรต น่าจะเริ่มต้น จากการกระโดดหน้าต่างหนีผู้บุกรุก จนได้รับบาดเจ็บเป็นผู้พิการตลอดชีวิต ติดตามด้วยการปล่อยวางและยอมเสียสละทั้งครบ

องค์พระคริสตเจ้าตรัสกับเธอว่า “เธอจะรู้สึกสบายน้อยครั้งมากน้อยจริงๆ จนกว่าชีวิตของเธอจะหาไม่ หัวใจของเธออยู่ในความเจ็บปวด แต่ว่ารอยยิ้มจะปรากฏบนริมฝีปากของเธอ” และเธอก็ยินยอมรับความเสียสละด้วยความเต็มใจ คือความเจ็บปวดกับความชื่นชมยินดี คำวอนขอข้อหนึ่งของเธอคือ “ขอพระองค์โปรดประทานรอยยิ้มไว้บนริมฝีปากของดิฉันด้วยเถิด” ผู้มาพบเห็นต่างแปลกประหลาดใจในรอยยิ้มของเธอ โดยหารู้ไม่ว่าเธอกำลังเจ็บปวดแค่ไหน มีไม่กี่คนที่สามารถหยั่งรู้ถึงความเจ็บปวดที่แท้จริง ภายใต้รอยยิ้มของเธอ เธอจัดให้มีการระลึกถึงวันที่เกิดการเจ็บป่วยนี้ทุกปีและในปี ค.ศ. 1950 เธอฉลองวันครบรอบ 25 ปีที่นอนอยู่บนเตียง

ท่านคิดว่าการดำเนินชีวิตแบบทุกข์ทรมานนี้ยังเหมาะกับยุคสมัยของเราไหม? ผู้คนยังสนใจไหม?

เมื่อความศักดิ์สิทธ์เป็นของแท้ และไม่ใช่เพียงปรากฏการณ์ภายนอก ของแท้จะไม่ถูกจำกัดด้วยกำหนดเวลา ถือเป็นปัจจุบันตลอดกาล นักบุญเกิดขึ้นได้เสมอ ท่านลองเอามือแตะที่หัวใจเวลาไหนเมื่อใด มันก็เต้นเช่นนั้นตลอดเวลา ฉันใดก็ฉันนั้นสำหรับผู้บำเพ็ญพรตและเป็นนักบุญ สามารถเกิดขึ้น และทำได้ทุกสมัยตลอดไปจนกว่าจะสิ้นพิภพ

อาแลสซานดรีนา สร้างความประทับใจแก่ผู้คน โดยตนเองยอมทนทุกข์ทรมานเพื่อไถ่โทษแทนคนบาป ทำนองเดียวกันกับคุณพ่อปีโอ ที่เพิ่งได้รับสถาปนาเป็นนักบุญเมื่อเร็ว ๆ นี้ และถือว่าท่านเป็นคนในสมัยเดียวกับเรา