นครรัฐวาติกัน
(Vatican City)
ความเป็นมา
เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า พระเยซูได้มอบหมายให้นักบุญเปโตร (Peter)
เป็นหัวหน้าสาวกทั้ง 12 และเป็นประมุขของคริสตจักรสากล ชาวคาทอลิกเชื่อว่าก่อนที่นักบุญเปโตรจะถึงแก่มรณภาพ
ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นบิชอปของกรุงโรม (Bishop of Rome) ด้วยจนถึงมรณภาพ
ดังนั้นใครก็ตามที่สืบตำแหน่งบิชอปแห่งโรม ย่อมเป็นประมุขของคริสตจักรคาทอลิกด้วยโดยอัตโนมัติ
นั่นคือเชื่อว่าการดำรงตำแหน่งสันตะปาปาสืบต่อจากนักบุญเปโตรมาจนทุกวันนี้
ระหว่าง 300 ปีแรก สันตะปาปาต้องปฏิบัติงานอย่างซุกๆ ซ่อนๆ ในมหาอาณาจักรโรมัน
ในฐานะเป็นประมุขของศาสนาต้องห้าม ส่วนมากถูกจับกุมและถูกลงโทษประหารชีวิต
และต่อมาทุกท่านได้รับการยกย่องเป็นนักบุญของคริสตจักรคาทอลิก รวมทั้งนักบุญเปโตรด้วย
เมื่อจักรพรรดิคอนสแตนติน
(Constantin) ย้ายราชสำนักไปตั้งนครหลวงใหม่ที่นครคอนสแตนติโนเปิล
(Constantinople) ตั้งแต่ปี ค.ศ.330 ได้มอบให้สันตะปาปาปกครองกรุงโรมในนามของพระองค์ตั้งแต่นั้นมาสันตะปาปาจึงดำรง
3 ตำแหน่ง (แสดงออกเป็นสัญลักษณ์โดยสวมมงกุฎ 3 ชั้น ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว)
คือ เป็นประมุขของคริสตชนคาทอลิกทั่วโลก เป็นบิชอปของกรุงโรม และเป็นเจ้านครของกรุงโรมขึ้นต่อจักรพรรดิโรมัน
ครั้นเมื่อจักรพรรดิโรมันไม่สามารถกุมอำนาจทางตะวันตกได้อีกต่อไป
สันตะปาปาก็มีอำนาจปกครองเด็ดขาดในฐานะกษัตริย์หรือเจ้านครรัฐอิสระโดยปริยาย
อำนาจทางการเมืองของสถาบันสันตะปาปา บางครั้งก็ขยายออกไปกินอาณาบริเวณภาคกลางของอิตาลีทั้งหมดบางครั้งขยายไปถึงภาคเหนือของ
อิตาลี จนถึงบางส่วนทางภาคใต้ของฝรั่งเศสด้วยก็มี อาณาเขตเปลี่ยนแปลงเรื่อยมาตลอดยุคกลางตามกระแสเหตุการณ์ของประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตามสถาบันสันตะปาปาตั้งสำนักปฏิบัติการอยู่ในกรุงโรมเสมอ
ยกเว้นระหว่างปี ค.ศ.1309-1377 ซึ่งเป็นช่วงที่สันตะปาปาเป็นชาวฝรั่งเศสสร้างถวายให้
แต่ก็ถูกทักท้วงอย่างหนักจนต้องย้ายกลับคืนกรุงโรมและคงอยู่ต่อมาจนทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อคาวัวร์ (Cavour) รวมนครรัฐต่างๆ ของอิตาลีเข้าเป็นประเทศอิตาลีได้สำเร็จก็ได้ยึดกรุงโรมจากสถาบันสันตะปาปา
และสถาปนาขึ้นเป็นนครหลวงของประเทศในปี ค.ศ.1870 ได้จำกัดเขตสันตะปาปาให้มีกรรมสิทธิ์เฉพาะในกัน
เขตวังวาติกัน เท่านั้น ได้รับการทัดทานจากชาวคาทอลิกทั่วโลก ในที่สุดมุสโสลินี
(Mussolini) ได้แก้ข้อพิพาทโดยทำสนธิสัญญาลาเตรัน (Lateran Treaty)
กับสำนักวาติกันในปี ค.ศ.1929 และแก้ไขในปีค.ศ. 1984 โดยให้สัตยาบันว่า
ขอรับรองและค้ำประกันอธิปไตยของนครรัฐวาติกันและให้ความสะดวกอีกหลายๆ
อย่าง เพื่อให้นครรัฐวาติกันสามารถดำรงอยู่ได้ในฐานะรัฐอิสระ เหมาะสมที่จะให้สถาบันสันตะปาปาปฏิบัติภารกิจในฐานะประมุขของชาวคาทอลิกทั่วโลกได้
เหตุที่เรียก สนธิสัญญาลาเตรัน เพราะมีการเซ็นกันที่ พระราชวังลาเตรัน