ถึงแม้ทางแองลิกันอาจจะไม่เห็นด้วยกับวิธีการประกาศข้อความเชื่อนี้ แต่สมาชิก ARCIC ก็เห็นว่า ข้อคำสอนนี้ดูมีเหตุผลเมื่อมองในมุมมองของพระคัมภีร์ ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกผู้รับใช้พระองค์มาปฏิบัติพันธกิจพิเศษของพระองค์อย่างไร และตอบแทนพวกเขาเหล่านั้น ผู้เต็มใจติดตามพระองค์ และให้ความร่วมมือหมดหัวใจในแผนการของพระองค์อย่างไร
สมาชิก ARCIC กระตุ้นให้ทางคาทอลิก และ แองลิกัน มองไปยังข้อความเชื่อในบริบทบทที่ 8 ของจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงโรมันที่ยืนยันว่า
“เพราะผู้ที่พระองค์ทรงทราบล่วงหน้านั้น พระองค์ทรงกำหนดล่วงหน้าจะให้เป็นภาพลักษณ์ของพระบุตรของพระองค์ด้วย เพื่อพระบุตรจะได้เป็นบุตรคนแรกในบรรดาพี่น้องจำนวนมาก ผู้ที่ทรงกำหนดไว้แล้วนั้นพระองค์ทรงเรียก ผู้ที่ทรงเรียกนั้นพระองค์ทรงบันดาลให้เป็นผู้ชอบธรรม ผู้ที่ทรงบันดาลให้เป็นชอบธรรมนั้น พระองค์ประทานพระสิริรุ่งโรจน์ให้ด้วย”

เอกสารเสริมว่า “พระนางมารีย์ถูกกำหนดตั้งแต่แรกเริ่มในฐานะผู้ที่พระเจ้าทรงเลือก ทรงเรียก และได้รับซึ่งพระหรรษทานจากพระเจ้าโดยอาศัยอำนาจเดชะพระจิต สำหรับพันธกิจที่พระนางต้องแบกรับ”

สมาชิก ARCIC กล่าวเรื่องข้อความเชื่อเรื่องการปฏิสนธินิรมลว่า พระศาสนจักรคาทอลิกได้อธิบายอย่างเฉพาะเจาะจงว่าพระนางมารีย์ปราศจากบาปด้วย “ฤทธิ์กุศลของพระเยซูริสต์” ดังนั้นจึงเป็นการยืนยันว่าพระนางมารีย์นั้นเป็นเช่นเดียวกับบุคคลคนอื่น ๆ ที่เกิดมาก่อนและหลังพระเยซูคริสต์ แล้วได้รับความรอดผ่านพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และ การกลับคืนชีพ ของพระองค์

ด้วยเหตุนี้เอง สมาชิกเสวนาจึงกล่าวว่า “เราสามารถยืนยันร่วมกันได้ว่า พันธกิจการไถ่กู้ของพระเยซูคริสต์ ทำงานย้อนหลังไปถึงพระนางมารีย์ ตั้งแต่แรกเริ่มของพระนางจนถึงสุดท้ายของช่วงชีวิตพระนาง”

สมาชิก ARCIC ยังคงกล่าวอีกว่า ถึงแม้จะไม่มีข้ออ้างอิงตรงๆ ในพระคัมภีร์ถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตพระนางมารีย์ แต่พระคัมภีร์ได้เอ่ยถึงผู้รับใช้พระเจ้าที่ยิ่งใหญ่คนอื่น ๆ อย่างเช่น เอลิยาห์ และ เอโนค ว่าพวกท่านได้รับการยก(ทั้งกาย)ขึ้นไปอยู่เคียงข้างพระเป็นเจ้าในช่วงสุดท้ายของชีวิตบนโลกของพวกท่านด้วยเช่นกัน

“เราพึงระลึกว่าข้อความเชื่อเรื่องการได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนางไม่เกี่ยวกับจุดยืนว่าพระนางจบชีวิตบนโลกนี้อย่างไร และไม่ใช่เรื่องของการตายและกลับคืนชีพ แต่เป็นการสรรเสริญสมโภชในพระราชกิจที่พระเป็นเจ้าทรงกระทำในพระนาง”คำปราศรัยกล่าว

“เราสามารถยืนยันร่วมกันว่า ข้อความสอนที่ว่าพระเจ้าทรงรับพระนางมารีย์ขึ้นสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณอย่างรุ่งโรจน์นี้สอดคล้องกับข้อความในพระคัมภีร์ และสิ่งนี้สามารถเข้าใจผ่านทางพระคัมภีร์ได้เท่านั้น”คณะกรรมการเสวนากล่าว

ARCIC ยังคงมองไปยังความแตกต่างของการอุทิศเทิดทูนพระนางระหว่างทางแองลิกัน กับ คาทอลิก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางคาทอลิกมักจะร้องขอพระนางมารีย์ให้สวด และ ร้องวิงวอนเพื่อพวกตน

คณะกรรมการเสวนาให้ความสำคัญกับข้อคำสอนคริสเตียนที่ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษยชาติแต่เพียงพระองค์เดียว แต่การที่จะขอเพื่อน, ศิษยาภิบาล หรือแม้แต่ใครก็ตามที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ให้อธิษฐานเผื่อให้ใครสักคนหนึ่ง ก็ไม่ได้เป็นการปฏิเสธความจริงที่ว่าเป็นพระเป็นเจ้าพระองค์เดียวนั่นเองที่ตอบสนองคำภาวนาของชาวเรา

แต่เพราะทางคาทอลิกและแองลิกันเชื่อว่าพระนางมารีย์ตอนนี้อยู่ในสวรรค์ร่วมกับพระเยซูคริสต์ผู้ซึ่งพระนางให้กำเนิดแล้ว “พระนางถูกเชื่อว่าเป็นผู้คอยทำหน้าที่ช่วยเหลือชาวเราผ่านคำภาวนาอันร้อนรนของพระนาง”

http://www.catholicnews.com/data/stories/cns/0502975.htm