ศีลมหาสนิทในชีวิตนักบุญ : อยู่ตรงไหนก็รู้

จากหนังสือ The Holy Eucharist and Saint


นักบุญฟรันซีส บอร์เกีย (St.Francis Borgia)

ในคำสดุดีสถาปนาท่านเป็นนักบุญ มีข้อความตอนหนึ่งจารึกไว้ว่า ท่านมีญาณพิเศษที่ชี้แนะว่า ศีลมหาสนิทประดิษฐานอยู่ตรงไหน โบสถ์บางแห่งมีพระแท่นหลายอัน โดยปกติบางพระแท่นเท่านั้นที่มีศีลมหาสนิทประดิษฐานอยู่ แต่สำหรับท่านนักบุญฟรันซีส บอร์เกียแล้ว เมื่อเข้าไปในวัด ท่านจะมุ่งหน้าไปที่ที่ประดิษฐานศีลมหาสนิททันทีโดยไม่มีผิดพลาด

พระแท่นในโบสถ์ที่สลักเป็นรูปท่านนักบุญกำลังนมัสการศีลมหาสนิท


นักบุญโยเซฟ กูเปอร์ติโน (St.Joseph Cupertino)

ได้รับพรสวรรค์เช่นเดียวกัน วันหนึ่งท่านเข้าไปในโบสถ์ บังเอิญตะเกียงตู้ศีลดับ ท่านจึงหันมาถามเพื่อนฤาษีที่มาด้วยกันว่า “ท่านคิดว่ามีศีลมหาสนิทหรือไม่?”
ฤาษีตอบว่า “ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ” ท่านตอบว่า “มีแน่ๆ” แล้วท่านก็ตรงดิ่งไปคุกเข่าอยู่หน้าตู้ศีล และรำพึงภาวนาอยู่ตรงนั้น

ครั้งหนึ่งขณะถวายบูชามิซซาพอท่านนักบุญเสกศีลขณะที่ศีลอยู่ในมือความมหัศจรรย์ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าบัดนี้ได้มาอยู่ในมือของท่านทำให้ท่านซาบซึ้งเข้าสู่ภวังค์จิต และค่อยๆลอยขึ้นเหนือจากพื้นต่อหน้าคนทั้งโบสถ์สร้างความตกตะลึงและถูกบันทึกไว้ในประวัติของท่านด้วย


นักบุญแคทเธอรีน แห่งริชชี (St.Catherine of Ricci)

ณ วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ท่านนักบุญคุกเข่าสวดภาวนาเงียบๆ อยู่ตรงมุมพระแท่นใหญ่ ซึ่งถอดเครื่องตกแต่งออกหมด ท่านกำลังรำพึงถึงข้อลึกลับแห่งการไถ่บาปมนุษย์ และเกิดความรู้สึกขึ้นในจิตใจว่า ในตู้ศีลยังคงมีศีลมหาสนิทอยู่ ท่านจึงก้มลงกราบนมัสการด้วยอาการสำรวมที่สุด บังเอิญคุณแม่อธิการเดินผ่านมาเห็นเช่นนั้น จึงสะกิดแล้วพูดว่า “แคทเธอรีน ในตู้ศีลไม่มีศีลมหาสนิทหรอก” แคทเธอรีนจึงเปล่งเสียงดังร้องถามไปว่า “พระองค์มิได้ประทับอยู่แน่หรือพระเจ้าข้า” ทันใดนั้น มีเสียงตอบดังฟังชัดมาจากตู้ศีลว่า “เราอยู่ที่นี่เอง” และก็เป็นจริงดังนั้น เพราะพระสงฆ์ผู้ทำพิธีได้จงใจเก็บศีลมหาสนิทส่วนหนึ่งไว้ในตู้ศีลสำหรับคนป่วยฉุกเฉิน


ท่านเยโรม คัสเซโต (The Venerable Jerome Casseto)

ท่านเยโรม คัสเซโต เป็นนักบวชคณะคาร์เมไลท์ มีพรสวรรค์สามารถรู้ได้ทันทีว่า ศีลมหาสนิทประดิษฐานอยู่ตรงไหน โดยไม่ต้องมีเครื่องหมายใดๆ ให้เป็นที่สังเกตทั้งสิ้น

เพื่อเป็นการทดสอบ นักบวชคณะฟรันซีสกันที่มีถิ่นพำนักอยู่ใกล้ๆ จึงได้เชิญท่านเยโรมให้ไปเยือนสำนักของตน เนื่องจากทราบล่วงหน้ามาว่า สิ่งแรกที่ท่านเยโรมทำก็คือ ไปเฝ้าศีลมหาสนิทก่อน เขาจึงย้ายศีลมหาสนิทไปประดิษฐานอยู่ ณ ที่อีกแห่งหนึ่ง โดยไม่ลืมปล่อยให้ตะเกียงตู้ศีลจุดอยู่อย่างเดิม แล้วพากันไปแอบอยู่หลังม่าน

พอเข้าไปในโบสถ์ เพื่อนพระสงฆ์ที่มาด้วยก็ตรงไปที่ตู้ศีลตรงที่ตะเกียงจุดอยู่ เพื่อกราบนมัสการ แต่ท่านเยโรมสะกิดคุณพ่อองค์นั้นว่า “ไม่ใช่ตรงนี้ โน่นพระองค์อยู่ตรงโน้น” ว่าแล้วก็ชวนกันไปคุกเข่าลงตรงหน้าตู้ศีล ที่ไม่มีตะเกียงจุดอยู่หรือเครื่องหมายอะไรเลย

พวกนักบวชที่ซ่อนตัวอยู่ต่างก็ตกใจและประหลาดใจไปพร้อมใจกันก้มลงกราบนมัสการศีลมหาสนิทด้วยความเลื่อมใสศรัทธาเพราะมหัศจรรย์ที่ปรากฏเฉพาะหน้าย่อมยืนยันอย่างแน่แท้ว่า ผู้ประทับในแผ่นศีลนั้น คือ องค์พระเยซู พระผู้ทรงฤทธิ์




“ศีลมหาสนิทคือหัวใจและศูนย์กลางแห่งโลกคริสตชนอย่างแท้จริง”
(พระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2)


“ศีลมหาสนิทคือหัวใจของพระศาสนจักร เพราะเป็นที่เก็บรักษาความมั่งคั่งด้านจิตวิญญาณของพระศาสนจักรไว้”
(สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2)


ในการประจักษ์แก่นักบุญ แคทเธอรีน ลาบูเร ครั้งหนึ่ง พระแม่มารีย์ตรัสแก่ท่านว่า “เธอจงมาแสวงหาพละกำลังและความบรรเทาใจ ตรงเชิงตู้ศีลนี้แหละ!”

แม่พระยุคใหม่นิตยสารราย 2 เดือน ฉบับพิเศษรวมเล่ม 2005/2548 หน้า 19 – 20