Luther, Calvin, and Other Early Protestants on the Perpetual Virginity of Mary
ลูเธอร์ คาลวิน และกลุ่มโปรแตสแตนท์อื่น ๆ กับเรื่อง พรหมจารีย์นิรันดรของพระนางมารีย์


กลุ่มผู้ก่อตั้งนิกายโปรแตสแตนท์ในยุคแรก ๆ ล้วนยอมรับข้อความจริงที่ว่าพระนางมารีย์ทรงเป็นองค์พรหมจารีนิรันดร สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าเรื่องนี้เป็นเพียง “ธรรมเนียมปฏิบัติ” โดยไม่มีรากฐานสนับสนุนมาจากรพระคัมภีร์เลย หากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ขัดต่อข้อความในพระคัมภีร์จริง ทำไมถึงไม่มีใครเห็นหรือจำแนกได้อย่างชัดเจนเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับโปรแตสแตนท์ในช่วง 150 ปีมานี้ละ? (ตั้งแต่ช่วงเสรีนิยมทางเทววิทยา) ผู้ซึ่งได้ทิ้งทัศนคติที่ถือกันมาก่อนหน้านี้? บางคนเชื่อกันว่าพระเยซูทรงมีน้องชายคนอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือดด้วย (แต่แนวคิดนี้ก็ขัดแย้งกับข้อคำสอนของคาทอลิก) และแน่นอน ขัดแย้งกับข้อความเชื่อเอกฉันท์ของชาวโปรแตสแตนท์เริ่มแรกด้วย

เรามาดูกันเถิดว่าผู้ก่อตั้งโปรแตสแตนท์สอนอย่างไรเรื่องข้อความเชื่อนี้
ถ้าทางคาทอลิกถูกฝังรากลึกกับการถูกมองว่า “โง่เขลา” “สิ้นหวัง” “ผิดอย่างเห็นได้ชัด” และ “ไม่ถือธรรมเนียมปฏิบัติตามพระคัมภีร์” ก็แปลว่าผู้ก่อตั้งโปรแตสแตนท์อย่างเช่น ลูเธอร์ คาลวิน และ เวสเลย์ ที่คงเป็นเช่นเดียวกัน แปลกแต่จริง โปรแตสแตนท์ในปัจจุบันที่วิพากษ์วิจารณ์คาทอลิก ก็มีอยู่เพียงแค่ส่วนน้อยที่เล็งวิจารณ์มาที่คาทอลิกจริง ๆ ข้าพเจ้าคิดว่าข้อผิดพลาดตรงนี้จะมากเกินพอดีหรือไม่แค่ไหนขึ้นกับว่าใครยอมรับ หรือ ประกาศออกมาแค่ไหน เหมือนกับ ออร์เวเลี่ยน (Orwellian)
คติจากเรื่อง Animal farm ที่ว่า
“ทุกคนนั้นเท่าเทียมกัน แต่บางคนเท่าเทียมกันมากกว่าคนอื่น”


เรื่องทั่วไป

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บางทีหากพูดถึงบทบาททางเทวศาสตร์ที่ใครคนหนึ่งจะพูดถึงหัวข้อเรื่องมารียวิทยาในปัจจุบัน คน ๆ นั้น ไม่ควรเรียกหาความช่วยเหลือจาก “กลุ่มธรรมเนียมปฏิรูป” เว้นแต่คนนั้นจะทำด้วยความระวังอย่างเป็นพิเศษที่สุด ข้อความเชื่อเรื่องพระนางมารีย์ของกลุ่มปฏิรูปนั้นสอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติของทางคริสตจักรในวาระสำคัญหลัก ๆ และเหมือนกับของบาทหลวงในช่วงศตวรรษแรกในส่วนข้อปลีกย่อย

ในการเพ่งเล็งไปที่ข้อความเชื่อเรื่องพระนางมารีย์ของกลุ่มปฏิรูป เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขามีความเห็นเอกฉันท์เพียงไร ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และ ความเป็นองค์พรหมจารีย์นิรันดร ของพระนางมารีย์
{Max Thurian (Protestant), Mary: Mother of all Christians, tr. Neville B. Cryer, NY: Herder & Herder, 1963 (orig. 1962), pp. 77, 197}

ตำแหน่ง “ผู้ทรงพรหมจารีย์นิรันดร” (aeiparthenos, semper virgo) ปรากฏขึ้นในช่วงแรกของคริสต์ศาสนา และเป็นสำนวนที่ถูกเก็บไว้ในช่วงยุคกลาง และถูกใช้อย่างต่อเนื่องในบทสารภาพบาปของโปรแตสแตนท์
(Luther, Calvin, Zwingli, Andrewes; Book of Concord [1580], Schmalkaldic Articles [1537]).

{Raymond E. Brown et al, ed., Mary in the New Testament, Phil.: Fortress Press / NY: Paulist Press, 1978, p.65 (a joint Catholic-Protestant effort) }

ทางโปรแตสแตนท์แยกพระนางมารีย์ออกจากการเคารพบูชา และการสวดภาวนาถึงอย่างเป็นทางการในช่วงศตวรรษที่ 16 และในช่วงศตวรรษที่ 20 การแตกแยกจากกันนั้นก็แตกหักแม้แต่การขับร้องบท “Magnificat” ก็ยังทำให้กลุ่มเพียวริแทนรู้สึกตะขิดตะควงใจอึดอัดเลย และถ้าพวกเขาล้มเลิกต่อข้อความเชื่อของอัครสาวก นั่นไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องข้อขัดแย้งกับทางคาทอลิก แต่เพราะเรื่องการเอ่ยถึงพระนางมารีย์ด้วย

แต่ คาลวิน ที่เป็นเช่นเดียวกับ ลูเธอร์ และ สวิงลี สอนเรื่องความเป็นองค์พรหมจารย์นิรันดรของพระนางมารีย์ กลุ่มปฏิรูปแรก ๆ ก็รับเอาข้อความเชื่อนี้มาด้วย ถึงแม้จะมีการสงวนท่าทีไว้บ้างกับตำแหน่ง Theotokos ของพระนางมารีย์ คาลวินยังเคยสอนให้ผู้ติดตามเขาเคารพบูชาพระนางในฐานะอาจารย์ผู้สอนสั่งพวกเขาให้ทำตามคำสั่งสอนของพระบุตรของพระนาง

{J.A. Ross MacKenzie (Protestant), in Stacpoole, Alberic, ed., Mary's Place in Christian Dialogue, Wilton, Conn.: Morehouse-Barlow, 1982, pp.35-6}