การหยั่งรู้ถึงสภาพวิญญาณของผู้มาสารภาพบาปอย่างน่าอัศจรรย์

ฮบ 4:12
พระวาจาของพระเจ้าเป็นพระวาจาที่มีชีวิตและบังเกิดผล คมยิ่งกว่าดาบ สองคมใด ๆ แทงทะลุเข้าไปถึงจุดที่วิญญาณและจิตใจแยกจากกัน ถึงเส้นเอ็นและไขกระดูก วินิจฉัยความรู้สึกนึกคิดภายในใจได้ จึงไม่มีสรรพสิ่งใด ๆ ซ่อนเร้นไว้เฉพาะพระพักตร์ แต่ทุกสิ่งเปิดเผยอย่างชัดเจนต่อสายพระเนตรของพระผู้ซึ่งเราจะต้องทูลถวายรายงาน

คุณพ่อปีโอ ได้รับพระพรในการหยั่งรู้สภาพจิตใจและวิญญาณของผู้ที่มาสารภาพบาป หรือแม้แต่รายละเอียดในบาปที่ตั้งใจปิดบังซ่อนเร้นก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ได้ช่วยให้ผู้มาสารภาพบาป ได้สารภาพบาปและสำนึกบาปอย่างสะอาดหมดจดอย่างแท้จริง

ตัวอย่างเช่นในกรณีของ คลาริเช บรูโน ซึ่งใช้เวลาแก้บาปไม่ถึง ๒ นาที ทันทีที่เธอเข้าไปในที่ฟังแก้บาป คุณพ่อปีโอจะกล่าวว่า “เดี๋ยวพ่อจะเป็นคนพูดเอง” จากนั้นคุณพ่อก็เริ่มท่องปากเปล่าถึงบาปต่างๆ ของเธอตามลำดับ โดยจะหยุดชั่วขณะเพื่อให้เธอได้ตอบรับหรือปฏิเสธว่า ได้ทำบาปนั้นๆ หรือไม่? ซึ่งเธอก็ตอบว่า “ค่ะ คุณพ่อ (ลูกได้ทำบาปนี้)” มีครั้งหนึ่งคุณพ่อปีโอพูดว่า “ลูกไม่อดทนและมักอารมณ์เสีย...แต่ลูกก็สำนึกผิดในทันที” บรูโนจำได้ดีว่าเมื่อวันก่อนเธออารมณ์เสียกับบริกรในร้านอาหารและได้พึมพำกับตัวเองว่า “ฉันหวังว่าฉันได้สำนึกผิดที่ได้โมโหบริกรคนนี้” คุณพ่อปีโอย้ำว่า “พ่อบอกว่าลูกได้สำนึกผิดทันทีที่ได้โมโห” บรูโน บรรยายว่า “คุณพ่อปีโอไม่ได้ตั้งคำถาม แต่คุณพ่อเล่าให้ดิฉันฟังว่าดิฉันได้ทำบาปอะไรไว้บ้าง!” มีครั้งหนึ่ง “ระหว่างที่กำลังสารภาพบาป ก่อนที่ดิฉันจะได้มีโอกาสเอ่ยปากขอคำแนะนำ คุณพ่อปีโอก็ได้เตือนใจในสิ่งที่ตรงกับที่ดิฉันคิดว่าจะถาม” จากนั้นคุณพ่อก็โปรดบาปและปิด “ช่องหน้าต่าง” ในห้องฟังแก้บาปและหันไปฟังแก้บาปรายต่อไปทันที เมื่อสารภาพบาปเรียบร้อยแล้วบรูโนออกจากวัด และรู้สึกว่า “ตัวเบา” และ “พบสันติสุขในพระเป็นเจ้าอย่างแท้จริง”

คุณพ่อปีโอ จะไม่ยินยอมฟังข้อแก้ตัวในการทำบาปของผู้มาสารภาพบาป และคุณพ่อจะรู้สึกหงุดหงิดทันทีหากผู้ใดจะอ้างว่า “สำหรับดิฉันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะ...” โดยไม่ยืนยันว่าตั้งใจจริงที่จะหลีกหนีโอกาสบาป หรือหากผู้ใดพยายามแก้ตัวว่า “ผมทนไม่ไหว” คุณพ่อจะตบมือดังและกล่าวว่า “ก่อนที่พระเป็นเจ้าจะอภัยบาปของลูก ลูกควรต้องเป็นทุกข์ถึงบาปและเสียใจอย่างแท้จริงก่อน...”