การประจักษ์ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อไปถึงสำนัก ยวงขอเข้าไปพบ เขาได้รับการปฏิเสธเช่นเดิม แต่ครั้งนี้เขารบเร้าจนพวกคนใช้สงสัย
อยากทราบว่าเขาซ่อนอะไรมาในเสื้อคลุมจึงบอกให้เขาเปิดให้ดู แต่ยวงปฏิเสธ
พวกนั้นจึงเข้ายื้อแย่ง ยวงเกรงว่า ดอกกุลาบจะช้ำจึงเปิดให้ดู เมื่อคนใช้เห็นกุหลาบงามเช่นนั้น
จึงเอื้อมมือมาจับ แต่จับไม่ได้เพราะกลายเป็นภาพวาดติดกับผ้า เขาตกใจรีบวิ่งไปเล่าเรื่องให้ท่านสังฆราชฟัง
ท่านสังฆราชสั่งให้เรียกยวงเข้าไปหา ยวงเรียนว่ามีเครื่องหมายที่ขอจากสตรีนั้น
แล้วเขาเปิดเสื้อคลุม ดอกกุหลาบบางดอกก็หล่นลงบนพื้น
เรื่องดอกไม้ที่เกิดนอกฤดูกาลและเกิดผิดสถานที่ก็เป็นสิ่งที่แปลกอยู่แล้ว
แต่ที่อัศจรรย์ที่สุดก็คือ ภาพวาดรูปแม่พระที่อยู่บนเสื้อคลุม ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างรู้สึกยำเกรง
คุกเข่าลงต่อหน้าภาพอันงามนั้น ขณะนั้นยวงไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้น เขาคิดถึงแต่ดอกกุหลาบ
เมื่อเขาเห็นภาพที่เสื้อคลุม ยวงรู้สึกสะเทือนใจด้วยความยินดีอย่างใหญ่หลวง
"นี่คือรูปของสตรีที่ได้ประจักษ์มา" เขารีบถอดเสื้อคลุม ท่านสังฆราชจึงได้นำไปไว้ในวัดของท่านด้วยความศรัทธา
เพื่อให้ทุกคนเห็นและสรรเสริญพระมารดา ท่านสังฆราชหลังจากที่ได้ภาวนาพักหนึ่ง
แล้วได้เชิญยวงดิเอโกพักอยู่กับท่านในคืนนั้น เพื่อจะได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังอย่างละเอียด
วันรุ่งขึ้นท่านขอร้องให้ยวงพาท่านไปดูสถานที่ที่สตรีนั้นได้ประจักษ์มา
ยวงดิเอโกยินดีปฏิบัติตาม เขาพาท่านไปดูสถานที่ที่สตรีประจักษ์ และที่ที่เขาไปเก็บดอกกุหลาบ
แล้วเขากล่าวลาอย่างสุภาพเพราะยังเป็นห่วงเรื่องไปเยี่ยมลุง ท่านสังฆราชมีความยินดี
และสั่งว่า ถ้าลุงหายจริงๆ ให้ไปหาท่าน เรื่องของลุงก็เป็นพยานถึงการประจักษ์นี้ด้วย
ขากลับ ยวงพบลุงชื่อ ยวง แบร์นาดีโน หายเป็นปรกติ ตรงกับเวลาที่แม่พระตรัสกับเขา
ในไม่ช้าท่านสังฆราชได้สร้างวัด และมอบให้ยวงเป็นผู้ดูแลวัดนั้น ยวงได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความศรัทธา
และละเอียดถี่ถ้วน เขาสิ้นชีวิตเมื่อ ปี 1584