จาก
Time Magazine
March 2005
วันทามารีอา
ชาวคริสเตียนทุกนิกายต่างพากันหาเหตุผลของตนเองในการให้ความเคารพต่อมารดาของพระเยซูเจ้า
การเปลี่ยนแปลงในเชิงเทววิทยา ชาวโปรแตสแตนท์หันมาให้ความสำคัญ และ ความเคารพต่อพระนางพรหมจารีย์มารีอา
พระมารดาของพระเยซูเจ้า
วันทามารีอา
พระนางประทับแทบเชิงกางเขน แต่ชาวโปรแตสแตนท์แทบจะไม่เคยเอ่ยถึงพระนางเลยในช่วงอีสเตอร์
หรือช่วงเวลาอื่นๆ แต่ทั้งหมดกำลังจะเปลี่ยนไป
โดย เดวิด วาน เบียมา
ศิษยาภิบาล ไบรอัน แมคไกวร์ ได้รู้ล่วงหน้าเมื่อ30ปีก่อนหรือเปล่าหนอ ว่าตัวเองอาจต้องเผชิญหน้ากับสมาชิกโบสถ์บางคนที่น่ารำคาญจริงๆ
เพราะใครบางคนเมื่อ445ปีก่อนได้ทำให้ความเชื่อพื้นๆบางอย่างคาราคาซังจนทุกวันนี้
ศิษยาภิบาลอายุ 35 ปี กำลังสังเกตที่ปฏิทินและพบว่าวันฉลองเทวดาแจ้งสารในปีนี้ดูแปลกไป
เพราะปรกติวันฉลองเทวดา กาเบรียล แจ้งสารแก่พระนางพรหมจารีมารีอามักจะเป็นวันที่
25 มีนาคม นั่นคือ 9 เดือนก่อนวันคริสต์มาส แต่ในปีนี้วันที่ 25 เมษายน
กลับตรงกับวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์(วันที่พระเยซูสิ้นพระชนม์)ด้วย ในขณะที่คริสตชนทุกนิกายระลึกถึงวันพระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์บนกางเขนในวันเดียวกัน
นิกายโรมันคาทอลิกให้ความสำคัญทั้งสองวันสำคัญนี้ ในปีนี้ทางคาทอลิคจึงเลื่อนวันฉลองเทวดาแจ้งสารแก่พระนางมารีย์เป็นวันที่
4 เมษายน แทน
แม็คไกวร์ ศิษยาภิบาลของคณะเพรสไบทีเรียน แห่ง เวสท์ มินสเตอร์ ในเซเนีย
โอไฮโอ นั้นไม่ใช่คาทอลิก แต่ในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะมาถึงนี้
เขาคิดว่าแทนที่จะเทศนาเรื่องของพระเยซูเพียงอย่างเดียว เขาน่าจะรวมเรื่องของพระนางมารีย์
พระมารดาของพระองค์เข้าไปในบทเทศน์ด้วย
นี่เป็นโอกาสแห่งบทเทศน์ที่ไพเราะห์สวยงามยิ่ง ถ้าคุณพบว่าวันที่พระองค์เสด็จมาในโลกและเสด็จออกจากโลกเผอิญเป็นวันเดียวกัน
แม็คไกวร์อธิบาย พระนางมารีย์ก็ทรงมีส่วนร่วมในทั้งสองเหตุการณ์
เพราะพระนางคือสานุศิษย์คนแรกและคนสุดท้ายในชีวิตของพระองค์
การตัดสินใจประสาน วันฝังสิ้นพระชนม์พระเยซูบนปฏิทินคริสเตียน
เข้ากับวันฉลองของพระนางมารีย์ของแม็คไกวร์นั้น ได้สร้างความตกตะลึงให้กับคริสต์ศาสนิกชนโปรแตสแตนท์ที่ร่วมฟังการเทศนาเป็นพิเศษ