7
อัศจรรย์
เรื่องความอัศจรรย์ของเลข
7 จากพระคัมภีร์ Bible
พระคัมภีร์ได้พิสูจน์ถึงปรีชาญาณที่ซ่อนอยู่หลายต่อหลายครั้ง
และอีกสิ่งที่น่าทึ่งคือเรื่องของตัวเลขในพระคัมภีร์กับรูปแบบทางคณิตศาสตร์ที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ทันสมัยใดจะมาเทียบได้
และแน่นอนยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่สำหรับลำพังมนุษย์ธรรมดาจะทำการคำนวณที่ซับซ้อนขนาดนั้นได้ในยุคร่วม
2-3 พันปีมาแล้ว เลข 7 เป็นตัวเลขหนึ่งที่ปรากฏหลายต่อหลายครั้งในพระคัมภีร์
ดังที่เราจะได้เห็นบทบาทของ 7 จาก
7 วันในการสร้างโลก
7 วันก่อนสะปาโต
7 วันสำหรับโนอาห์ในการรวบรวมฝูงสัตว์
7 คนที่อยู่กับโนอาห์
7 ปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ และ 7 ปีแห่งความแห้งแล้ง
7 พระสงฆ์ และแตรทั้ง 7 ล้อมลอบกำแพงแห่งเยริโคห์ เป็นเวลา 7 วัน
และในวันที่ 7 เมืองเยริโคห์ก็ตกอยู่ในมือของอิสราเอล
7 วันสำหรับการชำระล้างผู้ไม่บริสุทธิ์
7 เครื่องบูชาในพิธีกรรม
7 วันที่เพื่อนของโยบอยู่กับเขา
7 ปีในการสร้างพระวิหาร
7 เทศกาลในเลวีนิติ
77 ชั่วอายุคน จาก อดัม สู่พระเยซู
7 ชั่วโมงของการตรึงกางเขนของพระเยซู
7 อีกมากมายในบทวิวรณ์
ถ้าพูดให้ถูกเราสามารถนับ
7 อื่นๆที่ลงตัวได้อีกนับไม่ถ้วนในพระคัมภีร์ เลข 7 ในฐานะตัวเลขแสดงถึงสุดท้าย
ท้ายสุด เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ตัวอย่างแนวคิดนี้ได้แก่ 7 วันสำหรับการสร้างโลก
และ วันที่ 7 ที่เป็นวันสะปาโต ตัวเลขอื่นๆในพระคัมภีร์แต่ละตัวมีความหมายและสื่อความหมายต่างกันออกไป
ตัวอย่างเช่น เลข 3 สื่อถึง พระตรีเอกภาพ เลข 4 สื่อถึง 4 มุมพิภพ
ความหมายของมนุษย์ และอื่นๆ ดังนั้นถ้าหมายเลข 7 สื่อถึงความสุดท้ายเสร็จสิ้น
หมายเลข 6 ย่อมเป็นเครื่องหมายของปีศาจ (mark of the beast ) แม้จะมีเลขอื่นๆที่มีความหมายและความสำคัญต่างกันออกไป
แต่เนื้อหาในพระคัมภีร์เน้นย้ำและให้ความสำคัญกับเลข 7 มากที่สุด
อย่างในบทวิวรณ์ที่มีการกล่าวถึงเลข 7 หลายต่อหลายครั้ง เช่น ตะเกียงทั้ง
7 เชิงตะเกียงทองทั้ง 7 ดวงดาวทั้ง 7 วิญญาณทั้ง 7 ของพระเจ้า คริสตจักรทั้ง
7 ตราทั้ง 7 แตรทั้ง 7 และภัยพิบัติทั้ง 7 และเลข 7 ทั้งหมดนี้แสดงถึงสุดท้ายเสร็จสิ้น
เลข
7 ยังมีอะไรให้เราทึ่งมากกว่านี้อีกหากเราลองสังเกตเลข 7 ทั้งหลายที่ซ่อนอยู่ในพระคัมภีร์ดีๆ
ตัวอย่างเช่นจากบทปฐมกาลกับบทที่คุ้นเคยเราเป็นอย่างดีว่า ในปฐมกาลพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดิน
ซึ่งบทนี้ถ้าเทียบกับต้นฉบับที่เป็นภาษาฮีบรู บทนี้จะจัดออกมาได้
7 บทพอดี และนับเป็นภาษาฮีบรูได้ 7 คำพอดีอีก จำนวนตัวอักษรจากคำ
7 คำ นับได้ 28 หรือ 4 เท่าของ 7 คำ โดยที่ 3 คำแรกมีตัวอักษร 14
ตัว หรือ 2 เท่าของ 7 ส่วนคำสุดท้ายประกอบด้วย ฟ้า กับ แผ่นดิน
ทั้งคู่มีตัวอักษร 7 ตัว ที่น่าสนใจคือโอกาสที่ทั้งหมดจะลงตัวพอดีแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นโอกาส
1 ในล้านทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอัศจรรย์ของตัวเลขทางคณิตศาสตร์ก็ว่าได้
แม้แต่ 11 บทแรกของนักบุญมัทธิวก็มีรูปแบบ 7 แบบนี้เช่นกัน
การจะคิดว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยเหตุบังเอิญเป็นเรื่องตลกมากๆ
จาก 11 บท มีคำ 49 คำ จำนวนตัวอักษรคือ 266 หรือ 38 เท่าของ 7 จาก
266 ตัวอักษร 140 เป็นสระ หรือ 20 เท่าของ 7 และอีก 126 เป็นพยัญชนะ
หรือ 18 เท่าของ 7 ส่วนคำ 49 คำ ก็เท่ากับ 7 เท่าของ 7 คำไม่ว่าเป็นคำนามอะไรก็มีรูปแบบ
7 อีกเช่นกัน ซึ่งถ้าเราสังเกตดีๆรูปแบบนี้เป็นไปเหมือนกันหมดในบทอื่นๆทั้ง
11 บท ไม่มีทางที่มนุษย์จะสามารถคำนวณทั้งหมดนี้ออกมาได้ และยังสื่อความหมายออกมาได้ชัดเจน
คิดได้อย่างเดียวว่าพระเป็นเจ้าเป็นผู้ทรงเขียนผ่านทางประกาศกต่างๆ
ไม่ว่าจะบทปฐมกาลก็ดี บทของนักบุญมัทธิวทั้งสองบทที่ได้กล่าวไปแล้วก็ดีอยู่ในหนังสือเล่มเดียวกัน
อันหนึ่งในภาษาฮีบรู อีกอันหนึ่งในภาษากรีก โอกาสที่ทั้งสองภาษาจะตรง
7 พอดีนั้นต่ำจนไม่สามารถคิดได้เลย หรือถ้าคำนวณโอกาสความน่าจะเป็นจริงๆจะได้
1 ใน 678,000,000,000 ( 1 ใน 678 พันล้าน )ซึ่งคงมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ทำเช่นนี้ได้
นอกจากนี้ในบทอื่นๆในพระคัมภีร์ยังมีอีกหลายบทที่สามารถใช้สูตร
7 นี้ได้ ทั้งพันธสัญญาเดิม และ พันธสัญญาใหม่ คุณก็สามารถไปลองดูได้
แต่พระคัมภีร์นั้นต้องเป็นฉบับภาษาเดิมที่เป็นต้นฉบับเท่านั้น ตัวอย่างเช่นหนังสือ
Apocrypha ( เป็นพระคัมภีร์นอกระบบเล่มหนึ่ง ) ก็ไม่พบสูตร 7 ในบทต่างๆเลยทำให้เรารู้ได้ว่าเนื้อหาส่วนนี้ไม่ได้มาจากต้นฉบับพระคัมภีร์เดิมจริง
ผู้เขียนพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้าอีกทีหนึ่ง
เพราะต้องใช้คอมพิวเตอร์เหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดในโลกปัจจุบันในการคำนวณ
7 ให้ลงตัว และ ครบทั้งหมดในทุกบท โดยสื่อความหมายได้ครบถ้วนด้วย
เป็นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแต่ละบทของพระคัมภีร์เขียนห่างกันเป็นร้อยปี
อย่างบทปฐมกาลในภาษาฮีบรู กับบทของนักบุญมัทธิวในภาษากรีกก็ห่างกันร่วม
600-700 ปี ถ้าใครบางคนเชื่อว่าพระคัมภีร์ถูกเขียนขึ้นในยุคกลาง
หรือในศตวรรษที่ 2-3 คนที่เขียนแบบนี้ได้ต้องมีความอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์
การคำนวณ การใช้ภาษาเกินมนุษย์ หรืออีกนัยหนึ่งไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำสิ่งนี้ได้นอกจากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้อยู่เหนือกว่ามนุษย์
พระองค์กำหนดระบบทั้งหมด และแม้จะห่างกันเป็นศตวรรษ ระบบ 7 ของพระองค์ก็สมบูรณ์แบบและต่อเนื่องกันจนจบพระคัมภีร์ทั้งหมดทั้งเล่ม