ประดิท ศรีวรกุล
สำนักงานทนายความ ศรีนิติธรรม
206 ซอยเจริญมิตร ต . คลองตัน พระโขนง
กรุงเทพฯ


เรียน คุณพ่อวิจิตร ลิขิตธรรม เจ้าอาวาสวัดลำไทร ทราบ

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2531 ผมได้ไปแห่รูปพระแม่ที่วัดลำไทรและได้ประสบการณ์เรื่องสำคัญดังกล่าวแล้ว แต่ผมยังข้องใจไม่หายอยากจะพิสูจน์ความจริงให้แจ้งชัดในการปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2531 ว่ามีความจริงเพียงไรหรือไม่ ประมาณ 7 วัน หลังจากวันปรากฏการณ์เวลาประมาณ 11.00 น . ผมออกไปยืนตากแดดบนสนามหญ้าหน้าบ้าน ตาจ้องมองดูดวงอาทิตย์ เช่นเคย ไม่ปรากฏว่าดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งที่ 1 ที่ 2 แต่อย่างใด จึงรู้สึกเอะใจมากขึ้น และมั่นใจมากยิ่งขึ้น การปรากฏการณ์ตามวัน เวลาดังกล่าวมีความจริงขึ้นแล้ว นั้นหมายความว่า “ เป็นการกระทำของพระแม่โดยจงใจ ” ถ้าเหตุเกิดจากสายตาและผลทางวิทยาศาสตร์ การพิสูจน์นอกประเด็นคราวนี้ก็จะออกมาในรูปเดิม คือตำแหน่ง 1, 2 แน่นอนแต่นี้ก็หาไม่

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2531 ผมไปวัดนำลำไทรตามวัตถุประสงค์เดิมอีก และปฏิบัติตนเหมือนวันก่อน แต่ไร้ผล จึงมั่นใจอย่างแน่วแน่ว่า “ การปรากฏการณ์คราวก่อนเป็นการกระทำของพระแม่จริงแล้ว ”

มีเรื่องที่น่าคิดเกิดแก่ตัวผม กล่าวคือ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2531 ผมได้ไปขอพรกับคุณพ่อ กล่าวว่า “ คุณพ่อครับ ผมขอพรจากคุณพ่อ เพราะหมู่นี้ดวงไม่ค่อยดี ” คุณพ่อก็ประสาทพรพระแม่ให้ ต่อมาประมาณ 15 วัน เคราะห์ร้ายอันหนักหน่วงนั้นก็หายเด็ดขาด ก่อนหน้านี้ผมอับจนไม่มีทางแก้ เพราะถูกอัดทางสุขภาพจิต ตัน หมดทางแก้ ได้วิงวอนต่อพระแม่ ...” โอพระแม่ ลูกอับจน หมดปัญญาหาทางแก้ลูกของมอบภาระอันหนักหน่วงนี้ให้พระแม่ตัดสินใจ เป็นธุระของพระแม่ ” เมื่อรับพรจากตัวแทนพระแม่แล้วเรื่องก็เป็นอันยุติ ผมสบายใจ เท่ากับว่า “ คุณพ่อได้สะเดาะเคราะห์ให้ผมแล้ว ”

ผมยอมรับว่า “ ผมคนหนึ่งที่รักแม่พระมาก ผมไม่ยอมทำบาปเพราะ ... เกรงใจแม่พระ ในอดีต โสด สมัยถูกเบียดเบียนศาสนาอย่างดุเคร่งในสมัยสงครามพวกศัตรูศาสนาคริสต์กำลังหักล้างทำลายศาสนาคริสต์ให้ดับสูญ พวกผมมีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ถูกจับกุม ถูกหมายหัวจะปลิดชีพ กลางคืนนอนด้วยความกลัวหวาดผวา ทุกคนปฏิญาณถวายชีวิตแก่พระเจ้า ต่างยอมตายเป็นมารตี

ต่อมาหลังจบชั้น ม . 6 ผมได้เตรียมตัวไปบวชเป็นฤษี คณะการ์แมนริสต์เดอโชเซ ที่ประเทศฝรั่งเศสแต่ไม่สำเร็จ ขัดข้องเรื่องภาษาลาติน ผลที่สุดก็ได้สมรสกับสตรีชาวลำไทร ที่วัดลำไทร และก่อนหน้านั้นได้ปฏิญาณกับพระเจ้าว่า “ ขออย่าให้ลูกตกในบาปหนัก หากจะตกในบาปหนักก็ขอให้เรียกไปก่อนจะเป็นเช่นนั้น ” หากผมตกในบาปหนัก พระเจ้าคงเรียกผมไป

เสียใจทางขรุขระมาก มิฉะนั้นแล้วผมจะไปทุกเดือน และจะอยู่ถึงบ่าย 3 โมง

ขอแสดงความนับถือ
ประดิท ศรีวรกุล
(3 ต . ค . 2531)