จากการศึกษา “ความเชื่อร่วมกันเรื่องพระนางมารีย์”( our shared belief concerning the Blessed Virgin Mary) สมาชิกทีมเสวนาต่างหวังที่จะจัดหา “บริบทเรื่องน่าชื่นชมยินดีร่วมกันในข้อความเชื่อเรื่องพระนางมารีย์” (context for a common appreciation of the Marian dogmas) สำหรับการปฏิสนธินิรมลนิรมล และ เรื่องการเสด็จขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนาง (Assumption) ซึ่งแยกแองลิกัน กับ คาทอลิก จากกันถึง 150 ปี

ขณะที่ทางวาติกัน และ สหพันธ์แองลิกัน ได้แถลงการณ์เอกสารฉบับใหม่เพื่อการศึกษาและเสวนา ทั้งสองฝ่ายไม่ได้พิจารณาเอกสารนั้นให้เป็นทางการ จนกระทั่งทางวาติกันและที่ประชุมแลมเบธของแองลิกัน ได้ยืนยันเอกสารนั้นอย่างเป็นทางการ

ในช่วงบทนำของเอกสารนั้น
อาร์ค บิชอพ อเล็กซานเดอร์ เจ บรูเน็ต แห่ง ซีเอ็ตเตอร์ ประธานร่วมคาทอลิก ร่วมกับ ประธานร่วมฝั่งแองลิกัน อาร์ค บิชอพ ปีเตอร์ เอฟ คาร์นลี่ แห่ง เพิร์ธ ออสเตรเลีย ได้เขียนว่า
“จากคำแถลงการฉบับนี้ เราต้องเผชิญกับข้อความเชื่ออย่างตรงไปตรงมา ข้อความเชื่อที่ดูจะเต็มสมบูรณ์สำหรับฝั่งคาทอลิก แต่ดูเป็นเหมือนเรื่องแปลกใหม่สำหรับทางแองลิกัน”

จากคำแถลงของพระสันตะปาปาผู้มิรู้พลั้ง ทางศาสนจักรคาทอลิกได้ประกาศอย่างเป็นทางการในปี 1854 ว่า พระนางมารีย์ปฏิสนธินิรมล และในปี 1950 กับข้อความเชื่อว่าพระนางได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ

เพราะว่าแองลิกันและนิกายอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คาทอลิกไม่ได้ยอมรับถึงความมิรู้พลั้งขององค์พระสันตะปาปา และเพราะข้อความเชื่อทั้งสองไม่มีกล่าวถึงอย่างชัดเจนในพระคัมภีร์ ทำให้ข้อความเชื่อทั้งสองนั้นเป็นเสมือนข้ออุปสรรคสำคัญในความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชนในแต่ละนิกาย

ในเวลา 5 ปีที่พวกเขาได้ใช้เวลาจัดการกับเอกสารฉบับนี้ สมาชิกของ ARCIC ไม่ได้พยายามที่จะตั้งคำถามกับเรื่องความมิรู้พลั้งของพระสันตะปาปา แต่กลับกัน พวกเขาพยายามให้ความสำคัญกับเนื้อหาของข้อความเชื่อทั้งสองนั้น ด้วยการอ้างเทียบกับข้อความในพระคัมภีร์ และข้อเขียนของนักเทววิทยาคริสตจักรในยุคแรก ๆ และแถลงการของสภาศาสนจักรในสมัยก่อนที่คาทอลิก กับ แองลิกันจะแยกออกจากกัน

“มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะศรัทธาในพระคัมภีร์โดยไม่ยอมรับพระนางมารีย์อย่างจริงจัง” เอกสารนั้นเขียนไว้เช่นนั้น

“ทั้งแองลิกัน และ คาทอลิก ต่างยืนยันตรงกัน” ว่า พระนางมารีย์เป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า
พระนางทรงเป็นพรหมจารีย์ และทรงครรภ์พระเยซูด้วยอำนาจเดชะพระจิตเจ้า

นักเทววิทยาคริสตจักรในยุคแรก ๆ สอนว่า พระนางมารีย์ยังคงความเป็นพรหมจารีย์ตลอดไป “จุดนี้สะท้อนว่า ความเป็นพรหมจรรย์ บริสุทธิ์ มิใช่เพียงถูกเข้าใจแค่ความบริสุทธิ์ทางกาย แต่หมายถึงการเปิดใจกว้างจากภายใน การสุภาพนบนอบเชื่อฟัง และ การหลอมรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวต่อองค์พระคริสต์ด้วย”