หน้าที่ของบรรดาเทวดา

เราทราบว่ามีเทวดาอุปถัมภ์ของชาติต่างๆดังที่บรรดาปิตาจารย์สอนเรานับตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เป็นต้นมาแล้ว เช่นดีโอนีจีเทียม ออรีเจน นักบุญบราซิล นักบุญยวง คริสโซสโตม ฯลฯ นักบุญเกลเมนแห่งอาเล็กซานเดรียกล่าวว่า “ พระเจ้าทรงบัญชาให้บรรดาเทวดาแยกย้ายกันไปอยู่ตามชาติต่างๆ ” (Stomata VII) ในดาเนียล 10.13-21) กล่าวถึงเทวดาอารักขาพวกกรีกและพวกเปอร์เซีย นักบุญเปาโลกล่าวถึงเทวดาอารักขามาซิโดเนีย ( กจ . 16.9) นักบุญมีคาแอลถือว่าเป็นผู้อารักขาประชากรอิสราแอล ( ดนล . 10,21)

ในการประจักษ์มาที่ฟาติมาในปี 1916 เทวดาของปอร์ตุเกตได้มาหาเด็กทั้งสามถึงสามครั้ง กล่าวว่า “ เราเป็นเทวดาแห่งสันติ เทวดาของประเทศปอร์ตุเกต ” ความศรัทธาต่ออารักขเทวดาของอาณาจักรสเปนได้แผ่ขยายไปทั่วแหลมโดยพระสงฆ์ชาวสเปนที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่ง นามว่ามานูแอล โดมิงโก ซอล ท่านได้แจกจ่ายใบโฆษณาเป็นพันๆแผ่นที่มีรูปของท่านพร้อมกับบทภาวนาเพื่อเป็นการเผยแพร่นพวารพร้อมกับได้ก่อตั้งสมาพันธ์ระดับชาติของเทวดาแห่ง สเปน และมีหลายๆประเทศในโลกนี้ที่เป็นเช่นนี้

พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ตรัสเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1986 ว่า “ เราพอที่จะยืนยันได้ว่าหน้าที่ของบรรดาเทวดาเป็นเสมือนทูตของพระเจ้าทรงชีวิตที่สัมพันธ์ไม่เฉพาะกับแต่ละบุคคลหรือกับบุคคลที่ได้รับการเลือกสรรเท่านั้น แต่กับคนทั้งชาติด้วย ”

ยังมีเทวดาอารักขาพระศาสนจักรต่างๆอีกด้วย หนังสือวิวรณ์กล่าวถึงเทวดาของเจ็ดพระศาสนจักรของเอเชีย ( วว . 1.20) มีนักบุญหลายองค์ที่บอกเราเกี่ยวกับความเป็นจริงอันนี้ อันเกิดจากประสบการณ์ของท่านและยังพูดอีกว่า บรรดาเทวดาที่อารักขาพระศาสนจักรต่างๆจะอันตรธานไป เมื่อจะมีการทำลายเกิดขึ้น ออรีเจนกล่าวว่า แต่ละสังฆมณฑลมีพระสังฆราชสององค์ดูแล องค์หนึ่งเห็นได้ อีกองค์หนึ่งมองไม่เห็น องค์หนึ่งเป็นมนุษย์ อีกองค์หนึ่งเป็นเทวดา นักบุญยวง คริสโซสโตม ก่อนที่จะถูกเนรเทศ ได้เข้าไปในวัดเพื่อสั่งลาเทวดารักษาพระศาสนจักร นักบุญฟรังซิส เดอซาลส์ เขียนในหนังสือของท่านที่มีชื่อว่า (Filotea) ว่า “ จงทำความรู้จักกับเทวดา รักและเคารพเทวดาของสังฆมณฑลที่ไปหา ” พระคุณเจ้ารัตตีซึ่งต่อมาเป็นพระสันตะปาปาปีอุสที่ 11 เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นอัครสังฆราชของเมืองมิลานในปี 1921 เมื่อมาถึงเมืองก็ได้ก้มลงจูบพื้นดินพร้อมกับฝากตัวไว้กับอารักขเทวดาของเมือง คุณพ่อเปโตร ฟาโบร คณะเยซูอิต เพื่อนร่วมงานของนักบุญอิกญาซีโอ แห่งโลโยลา ได้ยืนยันว่า “ ขณะเดินทางกลับจากประเทศเยอรมันนั้นต้องเดินทางผ่านหมู่บ้านของพวกนอกรีต ข้าพเจ้ามีความบรรเทาใจมากที่ได้ทักทายกับเทวดาอารักขาวัดต่างๆที่ข้าพเจ้าต้องเดินผ่าน ” ในชีวิตของนักบุญยวง เวียนเน เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสของเมืองอาร์ส ก็เดินทางไปรับตำแหน่งเมื่อเห็นหอระฆังวัดแต่ไกล ท่านก็ได้คุกเข่าลง เพื่อจะได้มอบตัวของท่านไว้กับอารักขเทวดาของวัดใหม่ของท่าน

เช่นเดียวกันทุกแห่งต่างก็มีอารักขเทวดาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด เป็นแขวง เป็นเมืองหรือชุมชน คุณพ่อที่มีชื่อเสียงชาวฝรั่งเศสองค์หนึ่งที่มีชื่อว่าลามีกล่าวอย่างยืดยาวเกี่ยวกับอารักขเทวดาของชนบทของเมืองและของครอบครัวต่างๆ นักบุญบางองค์กล่าวว่า แต่ละครอบครัว แต่ละคณะนักบวชต่างก็มีอารักขเทวดาพิเศษด้วยกันทั้งนั้น

ท่านได้เคยร้องหาอารักขเทวดาของครอบครัวของท่านเป็นบางครั้งบางคราวหรือไม่ ? แล้วอารักขเทดาของคณะของท่านล่ะ ? แล้วของวัดหรือของเมืองหรือของชนบทล่ะ ? ที่สำคัญคืออย่าลืมว่าที่ตู้ศีลที่พระเยซูเจ้าประทับในแต่ละวัดนั้น จะมีเทวดาจำนวนล้านๆที่กราบนมัสการพระเจ้าของท่านอยู่ นักบุญยวง คริสโซสโตม ได้เคยเห็นหลายครั้งว่า วัดเต็มไปด้วยเหล่าเทวดาเป็นต้นเวลาที่มีการถวายบูชามิสซาอยู่ เป็นต้นเวลาเสกศีล จะมีเทวดาจำนวนมากมายที่มาเฝ้าพระเยซูเจ้าผู้ประทับอยู่บนพระแท่นและในเวลาที่พระสงฆ์หรือ ศาสนบริกรกำลังแจกพระกายของพระเยซูเจ้าอยู่ นักเขียนโบราณชาวเมเนียนคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ยวง มันดากูนี เขียนในบทเทศน์บทหนึ่งของท่านว่า “ ไม่ทราบหรือว่าอย่างน้อยที่สุดเวลาเสกศีลสวรรค์จะเปิดออกและพระคริสตเจ้าเสด็จลงมา กองทัพสวรรค์จะมาห้อมล้อมพระแท่นที่ถวายบูชามิสซา และทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยพระจิตเจ้า ” บุญราศีอันเยลา ดา ฟอลีโญ เขียนว่า “ พระบุตรของพระเจ้าประทับอยู่บนพระแท่นห้อมล้อมด้วยเทวดาเป็นจำนวนมากมาย ”

เพราะเหตุนี้นักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีจึงได้กล่าวว่า “ โลกจะต้องสั่นสะเทือนและสวรรค์ทั้งหมดจะต้องตื่นเต้นอย่างที่สุดเมื่อพระบุตรของพระเจ้าทรงปรากฏมาบนพระแท่นในมือของพระสงฆ์ … เราจึงต้องเลียนแบบบรรดาเทวดาที่มายืนล้อมรอบพระแท่นทุกครั้งที่มีการถวายบูชามิสซา ”

“ บรรดาเทวดาจะอยู่เต็มวัดในช่วงเวลานั้น ล้อมรอบพระแท่นและพิศเพ่งด้วยความมหัศจรรย์ใจต่อความสง่างามและความยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ” ( น . ยวง คริสโซสโตม ) นักบุญเอากุสตินกล่าวว่า “ บรรดาเทวดาจะยืนอยู่รอบๆเพื่อจะได้ช่วยพระสงฆ์เวลาที่ท่านถวายบูชามิสซา ” เราจึงสมควรที่จะร่วมกับการนมัสการของพวกท่านและขับร้องบทสิริโรจนาและบทศักดิ์สิทธิ์ เมื่อทำเช่นนี้แล้วพระสงฆ์องค์หนึ่งกล่าวว่า “ เมื่อข้าพเจ้าคิดถึงเทวดาระหว่างถวายบูชามิสซา ข้าพเจ้าก็รู้สึกมีความสุขอีกครั้งและความศรัทธาอีกครั้งเมื่อถวายบูชามิสซา ”

นักบุญซีริลแห่งอาเล็กซานเดรียกล่าวถึงบรรดาเทวดาว่า “ เป็นอาจารย์แห่งการนมัสการ ” เทวดาจำนวนล้านๆที่กราบนมัสการพระเจ้าในศีลมหาสนิท แม้ว่าจะเป็นแผ่นศีลแผ่นเดียวในที่สุดปลายแผ่นดินก็ตาม เหล่าเทวดาก็จะพากันกราบนมัสการพระเจ้า แต่ก็ยังมีเทวดาอีกจำนวนมหาศาลที่รับหน้าที่พิเศษในการกราบนมัสการที่หน้าบัลลังก์ในสววรรค์ ตามที่เราอ่านพบในหนังสือวิวรณ์ว่า “ ทูตสวรรค์ทั้งหมดยืนห้อมล้อมพระที่นั่ง รอบผู้อาวุโสและสัตว์ทั้งสี่ แล้วพวกเขาก็หมอบกราบลงเบื้องหน้าพระที่นั่งพลางสรรเสริญพระเจ้าว่า “ สาธุ ขอทรงพระเจริญด้วยพระสิริ พระปัญญาและการขอบพระคุณ ขอทรงพระเจริญด้วยพระเกียรติ พระอำนาจและพระเดชานุภาพอยู่ตลอดกาลเถิด สาธุ ” ( วว .7,11-12)

พวกเทวดาเหล่านี้ต้องเป็นพวกเซราฟิมเป็นแน่ที่อยู่ใกล้พระบัลลังก์ของพระเจ้า เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา ดังที่อิสยาห์ได้กล่าวไว้ว่า “ ข้าพเจ้าเห็นพระเจ้าประทับบนพระที่นั่งอันสูงส่ง … มีเซราฟิมเฝ้าแหนอยู่รอบพระเจ้า ทุกตนมีปีกหกปีก … แล้วพากันร้องว่าศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าจอมจักรวาล แผ่นดินเต็มไปด้วยพระสิริมงคลของพระองค์ ” ( อสย . 6,1-3)

ท่านได้กราบนมัสการพระเจ้าพร้อมกับบรรดาเทวดาต่อหน้าพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทบ้างหรือไม่ ?