สนธิสัญญาแห่งความรักต่างตอบแทนกัน

เพื่อให้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของเรากับอารักขเทวดาของเราจะได้แนบแน่นและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้นนั้น เป็นการสมควรที่เราจะทำสนธิสัญญาแห่งความรักต่างตอบแทนกันคือความรัก ความสนิทสัมพันธ์และความซื่อสัตย์ต่อกัน จำเป็นที่เราจะต้องขอพระเป็นเจ้าผู้สัมพันธ์ชีวิตของเราเข้าด้วยกัน โปรดให้มิตรภาพและความรักของเราเป็นนิจนิรันดร์

เราอาจจะทำแบบนี้หรืออะไรทำนองนี้ก็ได้

ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระตรีเอกภาพ ร่วมกับพระแม่มารี ลูกขอโมทนาพระคุณพระองค์ที่ได้โปรดให้ลูกมีเพื่อนสวรรค์อยู่เคียงข้างเพื่อนำทาง เพื่อคุ้มครองและเพื่อช่วยเหลือลูกในการทำให้น้ำพระทัยของพระสำเร็จไป โปรดช่วยให้ลูกรักท่านด้วยสิ้นสุดจิตใจราวกับเป็นพี่เป็นน้องเป็นมิตรสหายของลูกและโปรดให้ลูกได้เชื่อฟังท่านในทุกสิ่งที่ท่านดลใจลูก เพื่อท่านจะได้นำลูกไปหาพระองค์ ข้าแต่พระเยซูเจ้าโปรดรับดวงใจและวิญญาณ ชีวิตและความรักของลูกและให้ทั้งหมดนี้สัมพันธ์เข้ากับอารักขเทวดาของลูก เพื่อจะก่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกันของความรักตลอดไปด้วยเถิด ข้าแต่พระจิตเจ้า โปรดให้ทั้งหมดนี้เป็นความจริงขึ้นมาให้จงได้ ด้วยพระพรของพระองค์ เพื่อเราจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันตลอดนิรันดร ข้าแต่พระบิดาเจ้า โปรดรับสนธิสัญญานี้ไว้ในดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีพร้อมทั้งประทานพระพรของพระองค์แก่ลูกด้วยเถิด อาแมน

และไม่เพียงแต่สามารถทำสนธิสัญญาแห่งความรักของเรากับอารักขเทวดาของเราเพื่อให้พระเป็นเจ้าอวยพรความสนิทสัมพันธ์ของเรากับท่านเท่านั้น แต่เรายังสามารถทำกับอัครเทวดามีคาแอล คาเบรียล ราฟาแอลและกับเทวดาทั้งหลายในจักรวาลด้วย เป็นต้นองค์ที่กราบนมัสการพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทตลอดเวลา และดังนี้ขณะที่พวกท่านรักและนมัสการพระเป็นเจ้าอยู่ เราซึ่งได้ถูกจารึกชื่อไว้ใน “ ดวงใจ ” ของพวกท่านแล้ว ก็จะได้รักและนมัสการพระเป็นเจ้าด้วยเช่นกัน

ให้เราลองมาฟังดูว่านักบุญมาร์การิตา มารีอา อาลาก๊อกพูดเกี่ยวกับเทวดาที่เฝ้าอยู่ต่อหน้าตู้ศีลในจดหมายถึงคุณพ่อกรัวเซ ลงวันที่ 10 สิงหาคม 1689 “ ดวงพระหฤทัยต้องการให้เรามีความสนิทสัมพันธ์พิเศษกับบรรดาเทวดาที่ได้รับหน้าที่พิเศษในการแสดงความรัก ถวายเกียรติ และสรรเสริญพระองค์ต่อหน้าศีลแห่งความรัก จนทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวและสนิทสัมพันธ์กับท่าน พวกท่านจะวิงวอนต่อหน้าการประทับอยู่ของพระองค์ให้เป็นการแสดงความคารวะของเรา ไม่ว่าเพื่อรักพระองค์ เพื่อเราและเพื่อทุกคนที่ไม่ได้รักพระองค์และเพื่อเป็นการชดเชยต่อการขาดความเคารพที่เราได้ทำต่อหน้าการประทับอยู่ของพระองค์ ”

ในบันทึกความทรงจำที่ได้มอบให้โซเมสเขียน มีว่า “ ดิฉันได้เห็นเทวดาจำนวนมากมายที่พูดกับดิฉันว่าพวกท่านมีหน้าที่ถวายเกียรติแด่พระเยซูคริสตเจ้าในศีลมหาสนิทและถ้าหากว่าดิฉันต้องการที่ร่วมกับพวกท่าน พวกท่านก็จะยอมรับด้วยความเต็มใจ แต่ว่าก่อนที่จะทำเช่นนี้ได้ ดิฉันจำเป็นต้องดำเนินชีวิตของพวกท่านเสียก่อน พวกท่านจะช่วยดิฉันเท่าที่สามารถทำได้ และจะวิงวอนต่อไปสำหรับความไร้สมรรถภาพของดิฉันในการที่จะถวายเกียรติแด่พระองค์ที่พระองค์ทรงต้องการจากดิฉัน แด่องค์พระเจ้าของเราและเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกัน จำเป็นที่ดิฉันต้องวิงวอนสำหรับความไร้สมรรถภาพของดิฉันในการรับทรมานด้วย และดังนี้เราก็จะเป็นหนึ่งเดียวกันในความรักที่อดทน ที่ยินดี ดังนั้นพวกท่านจึงได้ให้ดิฉันอ่านสนธิสัญญาของเรานี้ที่เขียนลงบนดวงพระหฤทัยของพระเยซู คริสตเจ้า ”

ท่านไม่ชอบที่อยู่ต่อหน้าพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทพร้อมกับบรรดาเทวดาจำนวนล้านๆที่นมัสการพระองค์แทนท่านดอกหรือ ? ลองคิดดูซิว่ามันหมายความว่าอย่างไร ในทุกวินาทีของแต่ละวันและแต่ละคืน บรรดาเทวดาที่เฝ้าอยู่ที่ตู้ศีลนั้นจะนมัสการพระองค์พร้อมกับท่านและเพื่อท่าน ? ทำไมท่านจึงไม่ทำสนธิสัญญาของความสนิทสัมพันธ์กับท่านจนก่อให้เกิดการเป็นหนึ่งเดียวกันกับพวกท่านเพื่อจะสามารถนมัสการพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทอย่างต่อเนื่องหล่ะ ?

ขอเสนอให้ท่านสนิทสัมพันธ์เป็นพิเศษและอย่างพิเศษสุดกับชั้นเซราฟิมซึ่งกราบนมัสการพระเป็นเจ้าต่อหน้าบัลลังก์ “ ในสวรรค์ ” และบนแผ่นดินนี้ ( ศีลมหาสนิท ) จงขอให้เทวดารับท่านเข้าอยู่ในกลุ่มของพวกท่านจนทำให้พวกท่านที่อยู่ใกล้พระเป็นเจ้าที่สุดจะได้ถวายชีวิตและกิจการที่ดีงามของท่านเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าโดยอธิบายกับพระองค์ว่า คุณก็เป็นหนึ่งในจำนวนพวกท่านในความรักและความศักดิ์สิทธิ์

เรามีนักบุญหลายองค์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ของบรรดาเซราฟิม ( เช่นนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี ภราดาเซราฟิม หรือนักบุญเอากุสติน เซราฟิมของประเทศสเปน ) จึงให้เราสนิทสัมพันธ์กับพวกท่านด้วยเช่นกัน

ท่านไม่ชอบที่จะมีตราประทับในวิญญาณที่บอกว่า “ เพื่อนของบรรดาเซราฟิม ” ของ “ ชั้นเซราฟิม ” ดอกหรือ ?