วันนั้น...เป็นวันเตรียมฉลองสมโภชเทวทูตแจ้งสาร ฉันไปถึงวัดสายไปนิด
ตอนที่พระอัครสังฆราชผู้เป็นประธานในพิธีและบรรดาพระสงฆ์ตั้งขบวนออกมา
จากห้องสักการภัณฑ์แล้ว แม่พระกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะจับจิตดังนี้
“วันนี้เป็นวันที่ลูกจะได้รับความรู้และแม่อยากให้ลูกเอาใจใส่ให้ดีกับสิ่งที่ลูกจะได้รู้
เห็นเป็นพยาน ลูกควรเล่าทุกอย่างที่ลูกจะรู้ผ่านประสบการณ์ในวันนี้ให้ทุกคนฟัง”

เสียงแรกที่ได้ยินเป็นแว่วเสียงประสานที่ไพเราะยิ่งราวกับขับขานอยู่ไกลลิบ
เสียงเพลงเริ่มดังใกล้เข้ามา แล้วก็เลือนหายไปราวสายลม


พระอัครสังฆราชเริ่มพิธีมิสซาแล้ว พอถึงช่วงการสารภาพความผิด แม่พระ
กล่าวว่า “ลูกจงขอการอภัยจากองค์พระผู้เป็นเจ้าจากส่วนลึกของหัวใจในความผิด
บกพร่องทั้งหลายที่ลูกได้กระทำล่วงเกินพระองค์ เพื่อลูกจะได้ร่วมมิสซาอันทรง
เกียรตินี้อย่างคู่ควร”
ฉันคิดอยู่แว่บหนึ่ง ‘ฉันอยู่ในสถานะพระหรรษทานแน่ ก็ฉันเพิ่ง
ไปแก้บาปมาเมื่อคืน’ แม่พระตอบ “ลูกคิดหรือว่าลูกไม่ได้ล่วงเกินองค์พระผู้เป็นเจ้า
อีกหลังจากแก้บาปมาเมื่อคืน ให้แม่ทบทวนความจำให้ลูกสักนิดเถิด ตอนลูกเร่ง
ออกจากบ้านจะมาวัด เด็กรับใช้เข้ามาขออะไรบางอย่างจากลูก พอดีลูกกำลังรีบ
จึงตอบเธอไปด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก ลูกขาดความเมตตา แล้วลูกกลับบอกว่า
ลูกมิได้ล่วงเกินพระเป็นเจ้ากระนั้นหรือ... แล้วระหว่างทางมาวัด ลูกโดนรถเมล์
ขับปาดหน้าเกือบชนลูก ลูกได้แสดงกิริยาที่ไม่สมควรต่อชายคนนั้น แทนที่จะสวด
ภาวนาและเตรียมตัวเข้ามิสซา ลูกไม่อยู่ในศีลในพร จิตใจขาดความสงบ ไม่รู้จัก
หักห้ามใจ แล้วลูกกลับมาบอกว่าลูกมิได้ทำร้ายองค์พระผู้เป็นเจ้ากระนั้นหรือ...
ลูกมาถึงเอาตอนที่พระสงฆ์ตั้งขบวนเข้าพิธีแล้ว... ลูกกำลังไปร่วมมิสซาโดยไม่มี
การเตรียมตัวล่วงหน้าเลย...”


“ทำไมนะลูกๆถึงได้มากันตอนนาทีสุดท้าย ลูกควรมาถึงวัดให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้
ภาวนาวอนขอองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ส่งพระจิตของพระองค์ลงมาประทานความ
สำรวมใจให้ลูกและชำระลูกให้ปลอดจากจิตของโลก จากความวิตกกังวล
จากปัญหาและความวักแวก เพื่อลูกจะได้อยู่กับห้วงเวลาที่แสนศักดิ์สิทธิ์นี้สักชั่วขณะ
แต่ลูกมาถึงเอาตอนที่พระสงฆ์จวนเริ่มพิธีแล้ว แล้วลูกร่วมมิสซาอย่างกับเป็น
เหตุการณ์ปกติโดยไม่มีการเตรียมจิตใจ เพราะเหตุใดกัน นี่เป็นอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่
ที่สุด ลูกกำลังอยู่ในช่วงที่พระเจ้าสูงสุดประทานพระพรอันใหญ่ยิ่งของพระองค์แก่
ลูก แต่ลูกกลับไม่รู้จักเห็นคุณค่าของมิสซา”
ฉันรู้สึกแย่เอามากๆ เพียงไม่กี่เรื่อง
นี่ก็สมควรขอการอภัยจากพระเป็นเจ้าอย่างยิ่งแล้ว มิใช่เฉพาะความผิดบกพร่อง
ของวันนั้น แต่สำหรับทุกครั้งที่ฉันรอเข้าวัดเอาตอนพระสงฆ์เทศน์จบเหมือนกับคน
อื่นๆ ฉันขอโทษพระองค์ ที่บางครั้งฉันไม่ยอมรับรู้ว่าฉันมาร่วมมิสซาทำไม
เป็นไปได้ว่าฉันกล้าไปร่วมมิสซาทั้งๆที่วิญญาณอาจเต็มไปด้วยบาปหนัก