รูปคนในพระเนตรของแม่พระ
ผู้เชี่ยวชาญจากลิมา
ในปี 1979
วิศวกรชาวเปรู ดร.โฮเซ่ อัสเต ตอนสมานน์ เดินทางมาเม็กซิโก เขามีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ชั้นเยี่ยม
ที่นครลิมา อันเป็นที่ที่เขาเกิด เขาศึกษาในวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ทำคะแนนสูงสุดในชั้นเรียนเสมอ
ต่อมาเขาสำเร็จการศึกษาในวิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์แห่งชาติของประเทศเปรู
โดยการทำคะแนนได้สูงสุดอีกเช่นกัน ต่อจากนั้นเขาได้รับปริญญาที่สองในวิชาปรัชญาและย้ายไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนลในสหรัฐ
ศึกษาจนมีความเชี่ยวชาญในวิชาคอมพิวเตอร์ศาสตร์ เขาทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ
และสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอเมริกา สรุปว่าเขาเป็นนักวิจัยสมัยใหม่ที่มีคุณสมบัติเหมาะที่สุดคนหนึ่ง
ผมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพระแม่เจ้าแห่งกวาเดอลูป
ดร.ตอนสมานน์เล่า นับแต่วันแรกที่ผมเดินทางมาถึงเม็กซิโก ผมต้องการเสมอที่จะบันทึกข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์
เกี่ยวกับตราสำคัญที่บ่งบอกลักษณะจำเพาะของวัฒนธรรมของเม็กซิโกแต่ผมไม่รู้เรื่องอะไร
ผมคิดเกี่ยวกับปฏิทินของชาวอัซเต็กที่มีชื่อเสียง หรืออะไรสักอย่างที่คล้ายคลึงกัน
บังเอิญผมไปเจอนิตยสารอเมริกันฉบับหนึ่ง ซึ่งพูดถึงการศึกษาที่ดำเนินการ
เกี่ยวกับพระเนตรของแม่พระ ผมสนใจและอยากรู้มาก เป็นสาขาการวิจัยที่น่าสนใจ
ผมจึงติดต่อคณะกรรมการของสักการสถาน แล้วลงมือทำการวิจัย
งานที่ดำเนินการวิจัยโดย
ดร.โฮเซ่ อัสเต ตอนสมานน์ ใน 23 ปีสุดท้ายนั้นเหลือเชื่อ ดร.ผู้นี้ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุด
เป็นอุปกรณ์ที่องค์กรนาซ่าใช้เพื่อถอดรหัสภาพถ่ายในอวกาศ เขาได้ศึกษาพระเนตรของแม่พระแห่งกวาเดอลูปอย่างถี่ถ้วน
สามารถขยายส่วนให้พระเนตรใหญ่ขึ้น 2,500 เท่าของขนาดเดิม ใช้จุดส่องสว่าง
2,500 จุด ต่อตารางมิลลิเมตร
หลังจากที่กรองและล้างรูปที่ถ่ายด้วยระบบคอมพิวเตอร์จากพระเนตร
และเพิ่มคุณภาพให้กับภาพ ดร.ตอนสมานน์ค้นพบสิ่งที่สร้างความพิศวงคือ มีคนอยู่ในพระเนตรทั้งสองข้างไม่ใช่คนเดียว
แต่ทุกคนในสถานที่เกิดเหตุการณ์ประมาณ 10 คน ผู้ที่ถูกบันทึกภาพไว้ชัดเจนได้แก่ชาวเม็กซิกันคนหนึ่งนั่งขาไขว้กัน
ผมถูกรวบไปข้างหลังแบบหางม้า สวมตุ้มหูและนิ้วหนึ่งสวมแหวน ถัดจากชายคนนั้นเป็นชายแก่ซึ่งหัวล้านพอสมควร
มีเคราสีขาว จมูกตรง คิ้วดกและมีหยาดน้ำตาไหลลงแก้มข้างขวา มีการระบุเอกลักษณ์ของชายผู้นี้แล้วว่าคือ
พระสังฆราชยาง ซูมาร์รากา ด้านขวาของท่านมีชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเราจินตนาการว่าเป็นยวง
กอนซาเลส ล่ามแปลสำหรับพระสังฆราช นอกนั้นมีรูปด้านข้างของชายแก่คนหนึ่ง
มีหนวดและเครา จมูกโด่งใหญ่ แก้มโหนก ตาลึก เขาเป็นชาวอินเดียนแดงพื้นเมือง
และเขากำลังคลี่ผ้าคลุมของตนออก ขณะที่หันหน้าไปทางชายหัวล้านสูงอายุ
ภาพที่บรรยายจึงปรากฏว่าเป็นยวง
ดิเอโก กำลังนำดอกกุหลาบไปมอบให้แก่พระสังฆราชแม่พระอยู่ที่นั่น พระเนตรจึงจับภาพของสถานที่เกิดเหตุการณ์
และคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ในขณะที่พระนางปรากฏขึ้นบนผ้าคลุมไหล่ของชาวอินเดียนแดงผู้นั้น
ซึ่งยังคงติดอยู่ตลอดไป