ระบบเวลา

ไอสไตน์บอกเราว่าวัตถุไม่สามารถเคลื่อนได้ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าแสง หรือ 186,291 ไมล์ ต่อ วินาที ตามกฎสัมพันธภาพถ้าวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าแสง มวลจะกลายเป็นมวลไร้จำกัด ที่ต้องอาศัยพลังงานไร้ขีดจำกัดในการสร้างมวลไร้จำกัด ส่วนเรื่องสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วกว่าแสงนี้เราลืมไปได้เลย แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าธุลีที่เรียกว่า “Tachyon” สามารถเคลื่อนได้เร็วกว่าความไวแสงและไม่สามารถทำให้ช้าลงได้ หากเราสามารถตรวจหาและควบคุม tachyons นี้ได้ เราจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหนของจักรวาลในทันที แต่ในปัจจุบัน tachyons ยังไม่ถูกพบ

เวลาสามารถวัดได้ 2 วิธี

1. นาฬิกาไดนามิค ที่แบ่งด้วยระบบเวลาของโลก คือ วัดตามการโคจรรอบอาทิตย์ที่ได้รับผลกระทบจากแรงดึงดูด

2. นาฬิกาอะตอมมิค หรือ นาฬิกาแม่เหล็กไฟฟ้า ที่วัดด้วยอีเล็คตรอนรอบนิวเคลียส

เวลาเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในทางวิทยาศาสตร์ เพราะสูตรหลายๆสูตรมีตัวแปรเวลามาเกี่ยวข้อง อะตอมมิคลดลงเพราะ CDK หรือ การลดลงของความเร็วแสง ดังนั้นการคำนวณหายุคทางธรณีวิทยานั้นต้องเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลงของความเร็วแสงที่ลดลงตั้งแต่ยุคปฐมกาล

สงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ คือ 186,000 ไมล์ต่อวินาที เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ฉงนที่สุดในเรื่องการสร้าง ถ้าโลกมีอายุเพียงไม่กี่แค่พันปีแทนล้านๆปีอย่างที่นักวิทยาศาสตร์กล่าว ปัญหามาอยู่ตรงจุดที่ว่าพระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งทั้งหมดขึ้นมา แต่ถ้าความเร็วของแสงนั้นคงที่ ดังนั้นแล้วดาวที่เราเห็นเปล่งแสงก็หมายความว่าอาจเป็นดาวเมื่อล้านๆๆๆปีก่อนมาแล้วก็ได้ หรือยามเมื่อพระเจ้าสร้างดวงดาราขึ้นมา พระองค์ก็ทรงสร้างแสงจากดาวเหล่านั้นที่ส่องมาถึงโลกด้วย ซึ่งก็หมายความว่าเรามองเห็นดาวที่ไม่เคยดำรงอยู่ตอนพระเจ้าสร้างความสว่างขึ้นมา นอกจากนี้พระเจ้าไม่ทรงสร้างสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ในตัวของมันเองขึ้นมา และทุกสิ่งดำเนินตามกฎฟิสิกส์ของพระองค์ ทั้งหมดจะสมเหตุสมผลขึ้นเมื่อคิดกับแนวคิดความเร็วแสงลดลงอย่างช้าๆ ซึ่งจะสอดคล้องกับประเด็นทั้งหมดที่ได้กล่าวกันมาข้างต้น นั่นคือ การลดลงของสนามแม่เหล็กบนโลก การลดลงของการแผ่รังสี และการเสื่อมถอยของร่างกายมนุษย์