+++รหัสลับ DNA ผู้พิชิตทฤษฎีวิวัฒนาการ+++

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์เข้าไปสำรวจจักรวาลจิ๋วภายในเซลส์ เขาได้พบกับกลไกระบบข้อมูลที่สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนยิ่งกว่าสิ่งประดิษฐ์ทุกประเภททึ่มนุษย์เคยสร้างขึ้นมา นี่มีผลอะไรต่อทฤษฎีวิวัฒนาการ ?

ความสำเร็จ 2 ประการที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ในปี 1953

ประการแรกคือการพิชิตยอดเขา เอเวอร์เรสต์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก โดย เซอร์ เอดมุนด์ ฮิลราลี่ และผู้นำทาง นาย เทนซิง นอร์เก เป็นชัยชนะของนักไต่เขา นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา,มีนักไต่เขาจำนวนนับพันที่ทำตาม และมีผู้ที่สามารถพิชิตยอดเขาได้อีกนับร้อยคน

ความสำเร็จประการที่สองในปี 1953 คือการที่ เจมส์ วัตสัน และ ฟรานซิส คริก ได้ค้นพบโครงสร้างพันธุกรรมที่ฝังอยู่ในนิวเคลียสของเซลส์มนุษย์ และเรียกสารพันธุกรรมนั้นว่า DNA ย่อมาจาก Deoxyribonucleicacid (ดีออกซี่ริโบนิวคลีกเอซิด)

การค้นพบโครงสร้างเกลียวคู่ขนานของ โมเลกุล DNA เปิดทางให้นักวิทยาศาสตร์พยายามถอดรหัสลับที่ซ่อนอยู่ภายใน และหลังจากใช้เวลานานมากกว่าครึ่งศตวรรษ, รหัสลับของ DNA ก็ถูกแปลออกมาได้สำเร็จเป็นบางส่วน ถึงแม้ว่ายังมีรหัสจำนวนมากที่ยังไม่สามารถทำความเข้าใจได้ สิ่งที่ถูกค้นพบนี้ส่งผลกระทบต่อทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน ซึ่งถูกสั่งสอนในโรงเรียนว่าธรรมชาติทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายเกิดการวิวัฒนาการโดยผ่านกรรมวิธีการผ่าเหล่าและการเลือกสรรทางธรรมชาติ

การค้นพบอันน่าพิศวงเกี่ยวกับ DNA

นักวิทยาศาสตร์เริ่มต้นถอดรหัสพันธุกรรม(DNA) มนุษย์และได้พบกับบางสิ่งที่ไม่ได้คาดฝัน - "ภาษา" ของพันธุกรรมที่ประกอบด้วยอักษรพันธุกรรมถึง 3 พันล้านตัวอักษร ถือเป็น "การค้นพบที่มหัศจรรย์สุดยอดของศตวรรษที่ 20 " เลยทีเดียว ดร. สตีเฟน, ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม ที่สถาบันการค้นคว้าแห่งซีแอตเติล, วอชิงตัน. ได้กล่าวว่า "ความมหัศจรรย์นั้นก็คือ DNA บรรจุข้อมูลที่บอกรายละเอียดของการสร้างโปรตีน อยู่ในรูปแบบของรหัสดิจิตอล 4 หลัก" (อ้างอิงจากThe case for Creator,2004 หน้า 224, โดย Lee Strobel)

จำนวนข้อมูลใน พันธุกรรมมนุษย์นั้นสามารถเทียบได้โดยคร่าวๆกับชุดสารานุกรม เอ็นไซโครบิเดียบริตันนีกา จำนวน 12 ชุด หรือ 384 เล่ม ซึ่งอาจบรรจุได้เต็มในชั้นวางหนังสือของห้องสมุดยาว 48 ฟุต

เมื่อมองดูถึงขนาดของพันธุกรรมซึ่งเล็กเพียงแค่ สองล้านส่วนในหนึ่งมิลลิเมตรแล้ว ทำให้พันธุกรรมDNA 1 ช้อนชา สามารถบรรจุข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นในการสร้างโปรตีนของอวัยวะทุกส่วนของสิ่งมีชีวิตทุกสปีชี่ Species ที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้ได้เลย นี่เป็นคำพูดของนักจุลชีววิทยา ไม่เคิล เดนตัน (อ้างอิงจาก "Evolution: A Theory in Crisis,1996, p. 334)

ใครหรืออะไรที่สามารถย่อส่วนข้อมูลและจัดวาง"ตัวอักษร"จำนวนมากมายมหาศาลให้เป็นลำดับที่เหมาะสมถูกต้องแน่นอนราวกับเป็นคู่มือคำสั่งทางพันธุกรรมได้เช่นนี้? วิวัฒนาการสามารถทำให้เกิดระบบกลไกเช่นนี้ได้หรือ?