๑.
พระเจ้าแห่งสรรพวิทยา ( ดาเนียลบทที่ ๑.๑๗,๒๐ )
(
๑๗ )ฝ่ายอนุชนทั้งสี่คนนี้ พระเจ้าประทานสรรพวิทยา และความชำนาญในเรื่องวิชาทั้งปวงและปัญญา
และดาเนียลเข้าใจในนิมิตและความฝันทุกประการ (๒๐.)ในบรรดาเรื่องราวอันเกี่ยวกับปัญญาและความรอบรู้
ซึ่งพระราชาตรัสถามเขาทั้งหลาย ทรงเห็นว่าเขาทั้งหลายดีกว่าพวกโหร และพวกหมอดู
ซึ่งอยู่ในอาณาจักรทั้งสิ้นของพระองค์สิบเท่า
ตามประวัติศาสตร์ระบุว่า
ดาเนียล และคนหนุ่มทั้งหลายคือชายถูกกวาดไปเป็นเชลยที่บาบิโลนรุ่นแรก เขาพร้อมกับสหายอีกสามคนถูกกวาดไปตั้งแต่เยาว์วัยและพบความรุ่นโรจน์โดยความกล้าหาญและสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า
คริสตชนยังเชื่อว่าพระเจ้าที่เราเชื่อทรงพระชนม์
และสัพพัญญู คือทรงรู้ทุกอย่าง นั่นหมายความว่าไม่มีสิ่งใดซ่อนจากพระองค์ได้
ดังนั้นเราเรียนรู้จากดาเนียล และเพื่อนไม่ยอมทำตามกระแสของสังคมที่เขาพำนัก
ถึงแม้พวกเขา ได้รับเกียรติ โดยพระราชาทรงอนุญาตให้รับประทานอาหารที่พระราชาเสวย
และดื่มเหล้าองุ่นของพระองค์ ( ดาเนียล ๑.๕ ) แต่ดาเนียลและเพื่อนได้ปฏิเสธ
อาหารและเครื่องดื่มของพระราชา เพราะเกรงว่าเป็นอาหารมลทิน พร้อมทั้งให้ขันทีพิสูจน์พวกเขา
ที่รับประทานแต่ผัก และดื่มน้ำ
ดาเนียลและเพื่อนยอมรับว่าด้วยกำลังของตัวเองเขาไม่สามารทำอะไรได้
มีพระเจ้าเท่านั้นที่เป็นแหล่งแห่งสรรพวิทยา ดังนั้นพระเจ้าทรงประทานสรรพปัญญา
มีความชำนาญ มีความรู้ความเข้าใจ เรื่องต่างๆมากมาย ยิ่งกว่านั้นดาเนียล
สามารถเข้าใจนิมิตและความฝัน สติปัญญาและความรอบรู้ของดาเนียลนั้นได้รับการรับรองจากพระราชาของบาบิโลนว่าดีกว่า
คนของพระองค์ เป็นสิบเท่า
ประยุกต์:การใช้ชีวิตประจำวันของพวกเราเอง
ต้องปฏิเสธ กระแสสังคม ถึงแม้หลายสิ่งหลายอย่าง คนในสังคมทำกัน หรือเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แต่คริสตชนไม่สมควรจะทำตาม เช่น เรื่องการคอรัปชั่นทุกรูปแบบ การประกอบอาชีพบางประเภท
วิถีชีวิตอื่นๆเช่น การแต่งกาย การกินการดื่ม หรือสิ่งบันเทิงหลากหลายรูปแบบ
อีกเรื่องหนึ่งที่ คริสตชนหนุ่ม-สาว ชอบถามว่า อยู่ก่อนแต่งได้ไหม เพราะกระแสสังคมบอกว่าได้
ตามทัศนะพระคัมภีร์ ไม่ได้ บาทหลวง และศิษยาภิบาล ก็ตอบว่า ไม่ได้ ฉันได้ยินวัยรุ่น
ถกเถียงว่า ทำไมคริสตชนที่ประเทศโน่น ประเทศนั้น ที่เราคิดว่าเขาเป็นคริสต์
ทำได้ ฉันมักตอบพวกเขาง่ายๆคือ คนเหล่านั้นทำบาป ถ้าพวกคุณทำตาม ก็คือทำบาปเช่นกัน
หากเราตั้งสติ พิจารณาพระวาจาของพระเยซูคริสต์เจ้า คือ คำเทศนาบนภูเขา
( ดูมัทธิว บทที่ ๕-๗ )
ฉันชอบเรียกคำสอนชุดนี้ว่า
ค่านิยมทวนกระแส ตาม ศจ.ดร.จอห์น สต็อทท์ นักวิชาการพระคัมภีร์ชาวอังกฤษ
นั่นคือชีวิต คริสตชน ต้องดำเนินชีวิตตามที่พระเยซูคริสต์ทรงสอน คือเราดำเนินชีวิตทวนกระแสของโลก
ซึ่งอัครทูตเปาโลเอง กล่าวว่าอย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ
แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า
จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม ( โรม ๑๒.๒
) คริสตชนต้องเตือนสติตัวเองเสมอว่า วันหนึ่งเราต้องรับผิดชอบต่อพระเจ้า
ในการกระทำทุกๆอย่าง ( ปัญญาจารย์ ๑๒.๑๔ )
กลับมาที่ดาเนียลเพราะเขาเชื่อและวางใจในพระเจ้า
ยกย่องพระองค์ ยอมรับการช่วยเหลือจากพระองค์ เขาไม่พึ่งพาความรู้ความสามารถของตัวเอง
แต่วางใจทั้งหมดพึ่งพาความรอบรู้ที่มาจากพระเจ้า นี่คือแบบอย่างแก่คริสตชน
ว่ากิจการงาน ต่างๆที่เราทำ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ควรภาวนาขอคำแนะนำจากพระเจ้าก่อนทุกครั้ง