ครู่ต่อมาถึงภาคถวาย แม่พระให้ฉันสวดตามดังนี้ “พระเจ้าข้า ลูกขอถวาย
ทุกสิ่งที่ลูกเป็น ทุกสิ่งที่ลูกมี ทุกสิ่งที่ลูกสามารถถวายได้ ลูกขอมอบทั้งหมดไว้ใน
พระหัตถ์ของพระองค์ โปรดรวบรวมสิ่งเหล่านี้พร้อมกับความต่ำต้อยของลูกเถิด
พระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ โปรดเปลี่ยนลูกด้วยเดชะพระบารมีของพระบุตร
ของพระองค์ ลูกอ้อนวอนพระองค์เพื่อครอบครัวของลูก เพื่อผู้มีพระคุณต่อลูก
เพื่อผู้แพร่ธรรมของเราแต่ละคน เพื่อทุกคนที่ต่อต้านเรา เพื่อบรรดาผู้ที่มอบตัว
เขาไว้ในคำภาวนาที่ด้อยคุณภาพของลูก โปรดสอนให้ลูกมีความไว้วางใจอย่างสิ้น
สุดจิตใจก่อนเถิด เพื่อว่าการดำเนินชีวิตของท่านเหล่านั้นจะได้รับความบรรเทา นี่
คือวิธีที่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ภาวนา นี่คือวิธีที่แม่อยากให้ลูกทุกคนทำ”



ทันใดนั้นมีลักษณะบางอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเริ่มลุกขึ้นยืน ราวกับมีอีก
คนแยกออกมาจากด้านข้างของแต่ละคนที่อยู่ในอาสนวิหาร แล้วไม่ทันไรที่นั่นก็
เต็มไปด้วยผู้คนอ่อนวัยและงดงาม พวกเขาสวมชุดขาวยาวแล้วเริ่มเคลื่อนไปยัง
ช่องทางเดินตรงไปยังพระแท่น แม่พระตรัส “ดูให้ดีเถิด พวกเขาคืออารักขเทวดา
ของแต่ละคนที่อยู่ ณ ที่นี้ นี่เป็นช่วงที่อารักขเทวดาของลูกๆนำของถวายและคำ
วิงวอนของลูกไปยังแท่นบูชาของพระเจ้า”

ฉันถึงกับตะลึง เทวดาเหล่านี้มีใบหน้า
ที่งดงามเพริศแพร้วยิ่งค่อนไปทางใบหน้าผู้หญิง แต่ทว่าเค้าโครงรูปร่าง มือและ
ส่วนสูงมีลักษณะเป็นชาย เท้าเปล่า ไม่แตะพื้น แต่ราวกับร่อนไปมากกว่า ขบวน
ที่เคลื่อนไปนั้นงดงามมาก บางองค์ถือบางอย่างเหมือนขันทองที่มีอะไรบางอย่าง
เปล่งแสงสีทองเรื่อๆ แม่พระตรัส “พวกเขาคืออารักขเทวดาของคนที่ถวายมิสซา
นี้เพื่อจุดประสงค์ต่างๆ เป็นของคนซึ่งตระหนักรู้ถึงความหมายของมิสซานี้ เขา
เหล่านั้นมีของมาถวายพระเจ้า... จงถวายตัวลูกในช่วงนี้ ถวายความทุกข์ ความ
เจ็บปวด ความหวัง ความเศร้า ความเบิกบานยินดี คำอ้อนวอนต่างๆ จงระลึกไว้
เถิดว่ามิสซามีคุณค่ามหาศาล ลูกจึงควรมีน้ำใจดีที่จะถวายและวอนขอ”