“มนุษย์กำหนดแผนการของวัน ของสัปดาห์ ของภาคเรียน ของการพักร้อน
และอื่นๆของตน เขารู้ว่าวันไหนจะพัก วันไหนจะไปดูหนังหรือไปงานรื่นเริง หรือ
ไปเยี่ยมคุณย่า-คุณยายหรือเยี่ยมลูกหลาน พบเพื่อนฝูง หรือไปหาความสำราญ
มีกี่ครอบครัวกันที่อย่างน้อยๆเดือนละครั้งคุยกันว่า ‘วันนี้เราควรเป็นฝ่ายไปหา
พระเยซูเจ้าในตู้ศีลบ้าง’ แล้วทั้งครอบครัวก็มาเฝ้าศีลเพื่อพูดคุยกับเรา มีสักกี่คน
กันที่มานั่งตรงหน้าเราและสนทนาพูดคุยกับเรา เล่าสารทุกข์สุกดิบตั้งแต่พบกัน
ครั้งก่อนให้เราฟัง เพื่อปรับทุกข์ เพื่อขอสิ่งที่เขาต้องการจากเรา เพื่อให้เรามีส่วน
ร่วมในเรื่องเหล่านี้ มีสักกี่ครั้งกัน”



“เราล่วงรู้ทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งความลับที่ฝังลึกอยู่ในความคิดจิตใจของลูก
แต่เราชอบให้ลูกเล่าความเป็นไปในชีวิตให้เราฟัง เราพอใจที่ลูกให้เรามีส่วนร่วม
เหมือนกับสมาชิกในครอบครัวของลูกคนหนึ่ง เหมือนเพื่อนสนิทของลูกคนหนึ่ง
โอ้มนุษย์ช่างสูญเสียพระหรรษทานไปมากมายกระไรหนอเมื่อเขาไม่มีพื้นที่ให้เรา
อยู่ในชีวิตของเขา!”



“เราต้องการช่วยสิ่งสร้างของเราให้รอด เพราะในช่วงที่เปิดประตูสู่สวรรค์นั้น
ท่วมล้นไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน... ระลึกไว้เถิดว่าไม่มีแม่คนไหนที่เอาเนื้อของ
นางเองมาเลี้ยงลูกของตนหรอก เราบรรลุถึงความรักระดับสูงที่สุดแล้วเพื่อ
ถ่ายทอดบุญกุศลของเรามายังลูกทุกคน”