อิสรภาพจาก อัตตา หรือความเป็น ตัวกูของกู (Freedom from
the Ego)
การทำสมาธิจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ อิสรภาพ (Freedom)
สิ่งที่เกิดขึ้นในการทำสมาธิคือ ท่านปลดตนเองให้
หลุดออกจาก อัตตา ของท่าน (You unhook yourself from your Ego) และเชื่อมต่อกับตัวตนที่แท้จริงของ
ท่าน (Your true self) อีกครั้งหนึ่ง...ในการทำสมาธิ เรา เคลื่อนตัวออกจากการยึดมั่นในตนเอง
(Self-fixation)
และความหมกมุ่นอยู่กับตนเอง (Selfobsesstion) ออกไปสู่อิสรภาพใหม่ของฝ่ายจิต
คนที่ยึดมั่นในตนเองย่อมไม่
สามารถจะรักใครได้ (A self-fixated person cannot love) และคนที่เห็นแก่ตัวก็ไม่สามารถจะมีความสุขได้
(Aselfish person cannot be happy) มีคำสั่งสอนที่สรุปพุทธศาสนานิกายมหายานไว้อย่างน่าฟังว่า
ความทุกข์ทั้งหมดในโลกเกิดมาจากบุคคลที่พยายามแสวงหาความสุขให้กับตนเอง
และความสุขทั้งหมดในโลก
เกิดจากบุคคลที่พยายามทำให้ผู้อื่นมีความสุข และนั่นเป็นความจริงตรงกับพระวรสาร
นี่คือความหมายของ
การละทิ้งตัวตน - - -คือการพบความสุขโดยการ ปลดปล่อยตนเองจาก
อัตตา ของเรา
(Freeing ourselves from our Ego) และเข้าสู่ความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่-
- -ซึ่งก็คือ พระเจ้า
เราจะทำเช่นนั้นได้ด้วยการทำสมาธิได้อย่างไร?- - - ก็ด้วย
ความเรียบง่าย (Simplicity) คือเราต้องหยุดคิดถึงเกี่ยวกับตัวเราเอง
เราค้นหาด้วยกระบวนการปลูกจิตสำนึกให้รู้จักตัวของเราเองและแน่นอน เหมือนที่ข้าพเจ้าได้เคยพูดไว้แล้วว่า
สิ่งที่เรียบง่าย ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นเรื่องที่ ง่าย มันไม่ง่ายที่จะหยุดคิดถึงตัวเราเอง
เพราะเราได้คุ้นเคยกับการหมกหมุ่นอยู่กับตัวเราเองอยู่ตลอดเวลามาตลอดชีวิต
ฉะนั้นมันไม่ง่าย แต่ในการทำสมาธิ เราจะกลับกระบวนการนั้นเสีย เราจะดัดนิสัยของภาวะจิตของเรา
โดยลองทำบางสิ่งที่แตกต่างจากที่เราทำอย่างคุ้นเคยอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น
เมื่อเราเริ่มหยุดคิดถึงตนเอง ความสนใจของเราก็จะเคลื่อนลงสู่สถานที่ที่ลึกยิ่งกว่า
บริสุทธิ์ยิ่งกว่า- - - ซึ่งเงียบกว่า และมีสติกว่า
- - -ในขณะที่เราเคลื่อนเข้าสู่จิตใจของพระคริสตเจ้า