คำสอนของพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับการเพ่งพิศภาวนา
พระเยซูเจ้าทรงสอนเราเกี่ยวกับการภาวนา
โดยทรงบอกเราว่า ในชีวิตฝ่ายจิตของเรา (Spiritual
lift) เราควรมีสติ มีสมาธิ
ที่ไม่กระวนกระวายและกระจุยกระจายไปทั่วทุกทิศ (Distracted or scattered)-
- -ซึ่งหมายถึงการดำรงชีวิตอยู่ใน
สำนึกของ ขณะปัจจุบัน (The present moment) อยู่ตลอดเวลาเรื่องนี้ซ่อนอยู่ในคำกล่าวของพระองค์อย่าง
ชัดเจนมากเมื่อพระองค์บอกเราว่า เราควรตั้งเป้ามุ่งไปที่พระอาณาจักรของพระเจ้าก่อนสิ่งอื่นใดทั้งหมดแล้วสิ่ง
อื่นใดทั้งหมดนั้นก็จะตามมาหาเราทีหลังเอง นั่นแปลว่าอะไร? แน่นอน
นั่นหมายความว่า เราต้อง- - -อยู่กับ
ขณะปัจจุบัน- - -ดำรงชีวิตอย่างตั้งใจใน ขณะปัจจุบัน นี่คือ การตระหนักถึงพระอาณาจักรของพระเจ้า-
- - -
ซึ่งหมายถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าภายในตัวเรา และท่ามกลางเราตลอดเวลา-
- - -ในความหมายนี้ใกล้เคียง
มากกับคำว่า มีสติ (Mindfulness) ของพุทธศาสนิกชน และที่ธรรมประเพณีคริสตชนเรียกว่า
การภาวนา
ตลอดเวลา (Praying at all times)

ผลประโยชน์ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งของการทำสมาธิเป็นประจำทุกเช้าและเย็นนั้น
คือท่านจะเริ่มพบว่าท่านรับรู้ได้มาก
ขึ้นและลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้น ถึงการประทับอยู่ของชีวิตพระจิตอย่างต่อเนื่องในตัวท่าน
ชีวิตฝ่ายจิตนี้ดำเนินไปในส่วนลึก
ของตัวท่านตลอดเวลา ไม่ใช่เพียงในระหว่างที่ท่านกำลังภาวนาเท่านั้นแต่ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน
ไม่ว่าท่านจะ
กำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน อยู่กับใคร และไม่ว่าท่านจะรู้สึกอย่างไร นี่คือพื้นที่ส่วนลึกสุดของความเป็น
ตัวตน
ของเรา (Being) - - -เป็นระดับพื้นส่วนลึกของการดำรงอยู่ของเรา (Ground
level of existence) ซึ่งเรา
กำลังยืนอยู่ใน ขณะปัจจุบัน- - -ขณะปัจจุบัน ที่มีทั้งอดีตและอนาคตอยู่ในตัว
เราจะอยู่ใน ขณะปัจจุบัน
อยู่เสมอ แม้ในขณะที่เรากำลังคิดถึงอดีตหรืออนาคต และนี่คือความหมายของคำว่า
ภาวนาตลอดเวลา
(Praying at all times)
การมีชีวิตอย่างเพ่งพิศภาวนาไม่ได้แปลว่าเราต้องอยู่ในอาราม หรือต้องใช้วิถีชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ
แต่หมายความ
ว่า ไม่ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ในขณะที่เรากำลังทำหน้าที่ของเรา หรือปฏิบัติตามอาชีพของเราอยู่นั้น
เราอยู่ใน
ขณะปัจจุบัน และต่อหน้าการประทับอยู่ของพระเจ้าในการกระทำที่เรากำลังทำอยู่นั้นเสมอ
การภาวนาตลอด
เวลา หมายถึงว่า เรากำลังเปิดจิตสำนึกในระดับที่ลึกลงไปของเรา ซึ่งเป็นระดับที่พระคริสตเจ้าทรงกำลังภาวนา
ในตัวเรา นักบุญเปาโลช่วยให้เราเข้าใจ เมื่อท่นบอกเราว่า เราไม่รู้วิธีภาวนา
แต่พระจิตเจ้าทรงภาวนาภายในตัว
เรา อย่างลึกซึ้งมากกว่าคำพูด สิ่งที่เป็นผลของประสบการณ์นี้คือ ความชื่นชมยินดี
และสันติสุข (Joy and
peace) ท่านรู้สึก ชื่นชมยินดี ได้แม้เมื่อเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามความคาดหมาย
และท่านสามารถรู้สึกถึง
สันติสุข ได้แม้ในยามที่ท่านเครียด หรือกังวลใจ เพราะความ ชื่นชมยินดี
และ สันติสุข ที่พระเยซูเจ้าทรง
สัญญาและประทานแก่เรานี้ คือ สันติสุข และความ ชื่นชมยินดี ของพระองค์เอง
ในพระวรสารของนักบุญ
ยอห์น พระเยซูเจ้าตรัสว่า เรามอบสันติสุขของเราแก่ท่าน
เป็นของขวัญที่มอบให้ท่านก่อนจากกัน พระองค์ตรัส
ว่า เราขอมอบความชื่นชมยินดีของเราแก่ท่าน เป็นของขวัญที่มอบให้ท่านก่อนจากกัน
พระองค์ตรัสว่า
เราขอมอบความชื่นชมยินดีของเราแก่ท่าน เพื่อให้ความชื่นชมยินดีของท่านครบบริบูรณ์