ในคืนนั้น,ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ในเตียงซึ่งสร้างเป็นชั้น, เขาก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่ามีใครมาสัมผัสที่ข้อมือของเขา. ในภายหลัง,โคลด์ได้เล่าเรื่องให้แก่พระสงฆ์ว่า - มีสตรีคนหนึ่งสวยงามยิ่งกว่าสตรีใดๆที่พระเป็นเจ้าทรงสร้างมา, ยืนอยู่เบื้องหน้า. เขาตกใจมาก. สตรีนั้นได้ทำให้เขาสงบใจลง,และพูดกับเขาว่า "ถ้าเธอต้องการให้เราเป็นแม่ของเธอ, และถ้าเธอต้องการเป็นลูกของเรา, จงไปหาพระสงฆ์จากพระศาสนาจักรคาทอลิก" แล้วสตรีนั้นก็หายไป.

โคลด์ตกใจกลัวเป็นอย่างยิ่งร้องเอ็ดตะโรว่า "ผี , ผี " พร้อมทั้งกระโจนไปหาเพื่อนนักโทษคนอื่น. เขายังร้องเอะอะอีกว่าต้องการพบกับพระสงฆ์คาทอลิก

คุณพ่อโอลิลรี่, พระสงฆ์ผู้เล่าเรื่องนี้, ถูกเรียกให้ไปที่คุมขังในตอนเช้า. ท่านมาถึงและพบกับโคลด์ซึ่งได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนวันก่อน. แล้วโคลด์พร้อมด้วยนักโทษร่วมห้องขังอีกสี่คนได้ขอเรียนคำสอนจากท่าน.


นักโทษร่วมห้องได้ยืนยันแก่ท่านว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นความจริง, แต่แน่นอนละ, พวกเขาไม่ได้ยินหรือได้เห็นภาพประจักษ์ของสตรีนั้น.

คุณพ่อโอลิลรี่สัญญากับพวกเขาว่าจะสอนคำสอนให้ตามที่พวกเขาร้องขอ ท่านได้กลับไปที่โบสถ์และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แก่คุณพ่ออธิการ. ในวันต่อมาท่านได้มาที่คุกเพื่อสอนคำสอน.

เวลานั้นเองคุณพ่อก็ได้รู้ว่า โคลด์ นิวแมนไม่สามารถอ่านหรือเขียนได้เลย. วิธีเดียวที่ท่านจะสอนคำสอนจากหนังสือได้ก็โดยที่หนังสือนั้นจะต้องมีรูปภาพประกอบ โคลด์ไม่เคยไปโรงเรียนและเขาไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับศาสนาเลยแม้แต่น้อย. เขาไม่รู้ว่าพระเยซูเจ้าเป็นใคร.
เขาไม่รู้อะไรเลยเว้นแต่สิ่งเดียวคือ รู้ว่า มีพระเป็นเจ้า.

อย่างไรก็ตาม, โคลด์เริ่มได้เรียนรู้เรื่องคำสอน, และเพื่อนๆก็พยายามช่วยเขา. หลังจากนั้นสองสามวัน. มีซิสเตอร์อีกสองคนมาจากโรงเรียนของสังฆมณฑลของคุณพ่อโอลิลรี่และได้รับมอบหมายจากอารามที่สังกัดอยู่ให้มาที่คุกนี้. ซิสเตอร์ต้องการพบกับโคลด์, และนักโทษหญิงในคุกนั้นด้วย ซิสเตอร์มาช่วยสอนคำสอนให้แก่นักโทษหญิงในคุกนั้นบริเวณชั้นบนของคุกนั้นด้วยเช่นกัน.

หลายสัปดาห์ผ่านไป, ถึงเวลาที่คุณพ่อโอลิลรี่จะสอนเรื่องศีลอภัยบาป. ซิสเตอร์ทั้งสองก็นั่งอยู่ในชั้นเรียนด้วย. คุณพ่อเริ่มพูดกับนักโทษว่า "เอาละ , วันนี้พ่อจะสอนพวกเธอเกี่ยวกับศีลอภัยบาปนะ"


โคลด์พูดขึ้นว่า " โอ, ผมรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้! ".

"สตรีท่านนั้นได้บอกผม" โคลด์พูด "เมื่อเราไปสารภาพบาปเรากำลังคุกเข่าอยู่ มิใช่ต่อหน้าพระสงฆ์, แต่เรากำลังคุกเข่าต่อหน้ากางเขนของพระบุตรของพระนาง, และเมื่อเรามีความทุกข์เสียใจต่อบาปที่เราทำไปอย่างจริงใจ, และสารภาพบาปนั้น, พระโลหิตที่พระองค์ทรงหลั่งจะตกมาเหนือเราและชำระล้างทำให้เราพ้นจากบาปทั้งหมด."

คุณพ่อโอลิลรี่และซิสเตอร์ทั้งสองนั่งด้วยความงุงงง, อ้าปากค้าง โคลด์คิดว่าพวกเขากำลังโกรธจึงพูดว่า "โอ อย่าโกรธผมเลยครับ, กรุณาอย่าโกรธ, ผมไม่ตั้งใจทำให้ท่านโกรธเลย"

คุณพ่อพูดว่า "เราไม่ได้โกรธเธอหรอก. เราเพียงแต่ประหลาดใจ. เธอได้เห็นพระนางอีกแล้วหรือ ? ".

"คุณพ่อมาที่ห้องขังซิครับ ออกมาห่างจากคนอื่นๆ" โคลด์พูด

เมื่ออยู่ด้วยกันเพียงลำพัง, โคลด์พูดกับคุณพ่อ "
พระนางบอกกับผมว่า ถ้าคุณพ่อสงสัยผมหรือแสดงความไม่แน่ใจละก็ ให้ผมเตือนคุณพ่อให้ระลึกถึงเวลาที่คุณพ่ออยู่ที่ฮอลแลนด์,ในปี ค.ศ. 1940. คุณพ่อได้ทำสินบนต่อพระนางไว้ และพระนางกำลังรอคุณพ่อให้ทำตามที่สาบาน" คุณพ่อโอลิลรี่กล่าวว่า "โคลด์สามารถบอกกับพ่อได้อย่างถูกต้องว่าสินบนนั้นคืออะไร"

เหตุนี้เองคุณพ่อโอลิลรี่จึงเชื่อแน่ว่า เรื่องที่โคลด์เล่ามาทั้งหมดเกี่ยวกับการประจักษ์ของแม่พระนั้นเป็นความจริง.