พวกเขา กลับมาเรียนคำสอนว่าด้วยเรื่องการสารภาพบาปต่อไป. และโคลด์บอกกับเพื่อนนักโทษว่า "พวกคุณไม่ต้องกลัวเวลาไปสารภาพบาป. พวกคุณกำลังสารภาพต่อพระเป็นเจ้า, ไม่ใช่พระสงฆ์องค์นี้หรือพระสงฆ์องค์ได..เรากำลังสารภาพกับพระเป็นเจ้าจริงๆ" โคลด์พูดต่อว่า "รู้ไหม, สตรีผู้นั้นบอกว่า การสารภาพบาปนั้นก็เหมือนกับการพูดโทรศัพท์. เราพูดกับพระเป็นเจ้าผ่านทางพระสงฆ์ และพระเป็นเจ้าทรงตรัสกลับมาผ่านทางพระสงฆ์เช่นกัน"

อีกสัปดาห์ถัดมา,คุณพ่อโอลิลรี่เตรียมที่จะสอนเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ในชั้นเรียน ซิสเตอร์ก็อยู่ในห้องด้วย. โคลด์ได้เล่าให้ฟังว่าสตรีผู้นั้นได้สอนเขาเกี่ยวกับศีลมหาสนิท,เขาถามว่า-เขาจะบอกเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่สตรีนั้นพูดได้ไหม คุณพ่ออนุญาตทันที, โคลด์จึงพูดว่า "สตรีผู้นั้นบอกกับผมว่า ในศีลมหาสนิท, เราเห็นแต่เพียงแผ่นปัง แต่พระนางบอกว่า สิ่งนั่นแหละคือพระบุตรของพระนางอย่างแท้จริง. และพระองค์จะทรงอยู่กับผมชั่วระยะหนึ่งเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงประทับอยู่ในพระครรภ์ของพระนางก่อนที่จะทรงบังเกิดมาที่เบธเลเฮ็ม. และผมควรจะใช้เวลากับพระองค์เช่นเดียวกับพระนางกระทำตลอดเวลาที่พระองค์อยู่กับพระนาง, โดยรักพระองค์, นมัสการพระองค์, ขอบพระคุณพระองค์, สรรเสริญพระองค์และขอให้พระองค์ทรงอวยพระพร. เราไม่ควรสนใจคนอื่นหรือสิ่งอื่น แต่ควรใช้เวลาสั้นๆนั้นกับพระองค์"

เมื่อครบหลักสูตร, โคลด์ได้รับศีลล้างบาปเข้าสู่พระศาสนาจักรคาทอลิก,และถึงเวลาที่โคลด์จะถูกประหารชีวิตด้วยเช่นกัน เวลาประหารชีวิตคือ 12.05 น. เที่ยงคืน !

นายอำเภอถามเขาว่า "โคลด์, คุณมีสิทธิที่จะร้องขอเป็นครั้งสุดท้าย, คุณต้องการอะไร ?"

โคลด์ตอบ "พวกคุณคงจะรู้สึกสงสารหรือตื่นเต้นกับเรื่องนี้, แต่คุณไม่เข้าใจ, ผมไม่ได้กำลังไปสู่ความตาย. ผมกำลังไปอยู่กับพระนาง. ดังนั้น,ผมขออนุญาติให้จัดงานเลี้ยงจะได้ไหม?"

"หมายความว่ายังไง?" นายอำเภอถาม

"งานเลี้ยงฉลองครับ" โคลด์พูด "คุณจะกรุณาอนุญาตให้คุณพ่อนำเค็กและไอศกรีมและให้นักโทษอื่นในชั้นที่สองมารวมอยู่ในห้องใหญ่เพื่อที่พวกเราจะมีงานเลี้ยงฉลองได้ไหมครับ?"

คุณพ่ออาจถูกทำร้ายก็ได้นะ" ผู้คุมเตือนให้ระวัง

โคลด์หันไปที่ชายคนนั้นซึ่งอยู่ไม่ไกลและพูดว่า "โอ,ไม่หรอก, พวกเขาจะไม่ทำอย่างนั้น, เป็นคุณคุณจะทำไหม?"

ดังนั้น, คุณพ่อจึงไปขอความอนุเคราะห์จากอารามชีของสังฆมณฑล, และก็ได้รับอนุเคราะห์ไอศกรีมและเค้กเพื่อจัดงานเลี้ยง.

ในงานเลี้ยง, โคลด์ขอให้จัดเวลาชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์ คุณพ่อได้นำหนังสือสวดจากโบสถ์มาและพวกเขาก็เดินรูปสิบสี่ภาคพร้อมกันและตามด้วยการเฝ้าศีลโดยไม่มีศีลมหาสนิท.

เมื่องานเลี้ยงเสร็จสิ้นลง, นักโทษถูกส่งกลับเข้าห้องขังของตน. คุณพ่อกลับไปยังโบสถ์เพื่อไปนำศีลมหาสนิทมาให้แก่โคลด์

คุณพ่อโอลิลรี่กลับมาที่ห้องขังของโคลด์อีกครั้ง. โคลด์คุกเข่าลงและคุณพ่อก็คุกเข่าด้วย พวกเขาสวดภาวนาด้วยกันขณะที่นาฬิกากำลังเดินไปสู่เวลาประหารชีวิต.


สิบห้านาทีก่อนถึงเวลาประหาร, นายอำเภอวิ่งมายังห้องขังตะโกนว่า "เลื่อนการประหารชิวิต, เลื่อนเวลาประหาร, ผู้ว่าการรัฐสั่งให้เลื่อนการประหารชีวิตไปอีกสองสัปดาห์" โคลด์ไม่รู้มาก่อนว่านายอำเภอและทนายความประจำท้องถิ่นได้พยายามที่ระงับการประหารเพื่อช่วยชีวิตของโคลด์. เมื่อโคลด์รู้เรื่อง,เขาก็ร้องไห้. คุณพ่อและนายอำเภอคิดว่าเขาคงดีใจที่ไม่ต้องถูกประหารชีวิต. แต่โคลด์พูดว่า "โอ, พวกคุณไม่รู้ และคุณพ่อก็ไม่รู้ ถ้าคุณพ่อได้เห็นพระพักตร์ของพระนางและได้เห็นพระเนตรของพระนางแล้วละก็ คุณพ่อจะไม่ต้องการมีชีวิตต่อไปแม้แต่วันเดียว"

โคลด์ร้องไห้พลางพูดว่า "สองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมได้ทำอะไรผิดไปหรือ พระเป็นเจ้าจึงทรงปฏิเสธผมไม่ให้กลับสู่บ้านในสวรรค์? " คุณพ่อเล่าว่า โคลด์ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนกับคนอกหัก.